
เคล็ดลับในการฝากเงิน
คนไทยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมเก็บเงินออมไว้ในรูปแบบของการฝากเงินมากที่สุด ทั้งนี้เป็นเพราะ
หนึ่ง ความสะดวกที่มีธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอยู่ใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงานที่สามารถติดต่อได้ง่าย
สอง ความมีสภาพคล่องที่สามารถเบิกถอนได้เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงิน และ
สาม ไม่มีความความเสี่ยงต่อการสูญเสียของเงินต้นเช่นกับการลงทุนในตราสารการเงินประเภทอื่น ๆ เนื่องจากในปัจจุบันยังมีการให้ประกันเงินฝากอยู่โดยสถาบันประกันเงินฝาก

แต่อย่างไรก็ตามจุดด้อยของการฝากเงิน คือแม้จะมีความมั่นคงของเงินต้นและมีสภาพคล่องสูงแต่ก็จะให้ผลตอบแทนที่ ต่ำมากด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำหนึ่งปีของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.75-1.25 ต่อปีเท่านั้น และสำหรับผู้มีเงินก้อนจำนวนมากยังจะต้องเสียภาษีของเงินรายได้จากดอกเบี้ยรับอีกร้อยละ 15 ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสุทธิ (หลังหักภาษี) สำหรับเงินฝากประจำ 1 ปีของบุคคลที่มีเงินรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากเกินกว่า 20,000 บาทต่อปี จะเหลืออยู่เพียงประมาณร้อยละ 0.6375-1.0625% เท่านั้น
จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนของการลงทุนด้วยการฝากเงินจะได้รับผลตอบแทนน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในตราสารการเงินประเภทอื่น ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้เอกชน หุ้น และการซื้อหน่วยลงทุนต่าง ๆ และในหลายครั้งหลายกรณีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็จะต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อด้วยซ้ำไป นอกจากนี้แล้วยังพบว่าในการฝากเงินกับสถาบันการเงิน คนส่วนใหญ่จะยังนิยมฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งได้รับดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินฝากประจำที่กำหนดอายุ

ดังนั้นในการฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินควรที่จะมีการวางแผนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดโดย
(1) การจัดสรรเงินฝากสำหรับค่าใช้สอยประจำรายเดือนไว้เพียง 3-6 เดือนเท่านั้นที่ฝากไว้ในบัญชีประเภทออมทรัพย์ และส่วนที่เหลือควรจะฝากประจำที่มีกำหนดระยะเวลา เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 2 ปี หรือเงินฝากพิเศษซึ่งจะทำให้ได้รับรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่าการฝากเงินประเภทออมทรัพย์แต่เพียงอย่างเดียว
(2) การศึกษาถึงสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีของการฝากเงินในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้จึงขอนำรายละเอียดของภาษีที่มีต่อเงินฝากประเภทต่าง ๆ มาเรียนเพื่อเป็นประโยชน์ในการฝากเงินให้ได้ประโยชน์สูงสุดค่ะ
เงินฝากทั่วไป เสียภาษีหักภาษี ณ ที่จ่ายและได้สิทธิเลือกไม่รวมคำนวณปลายปี
เงินฝากออมทรัพย์ ได้รับยกเว้นภาษีสำหรับดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาท ต่อปี
เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์และ เงินฝากออมทรัพย์พิเศษของ ธ.ก.ส ได้รับยกเว้นภาษี
เงินฝากประจำแบบผูกพัน ได้รับยกเว้นภาษีสำหรับการฝากเท่ากันทุกเดือนติดต่อกันไม่น้อยกว่า 24 เดือนแต่ไม่เกินเดือนละ 25,000 บาท และวงเงินรวมกันไม่เกิน 600,000 บาท
เงินฝากประจำสำหรับผู้สูงอายุ ยกเว้นภาษีสำหรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมแล้วไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
เงินฝากประจำพิเศษสำหรับการฝาก 5 ปีขึ้นไปที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา ที่อยู่อาศัย และเมื่อมีอายุครบ 55 ปี จะได้รับส่วนลดภาษีจากอัตรา 15% ลงเหลือ 10%

ที่มา : คอลัมภ์ เข็มทิศลงทุน นสพ.เดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 31 ตุลาคม 2552