ฉีกหน้ากาก แชร์ลูกโซ่ เล่ห์ร้ายของคนลวง ภัยร้ายของคนโลภ

   เร่เข้ามาค่ะ คุณผู้อ่าน ช่วงนี้เป็นโปรโมชันคืนกำไร เอาใจ “คนอยากจะรวย” เพราะมีสุดยอด ลงทุน กำไรง่าย (เพราะไม่ต้องลงแรงให้เหนื่อยกาย) กำไรงาม (เพราะให้ผลตอบแทนกันเป็นเท่าตัว)

มานำเสนอ รับรองว่าถูกใจแน่ๆ เพราะการลงทุน ทุกวันนี้ กำไรแทบจะไม่ต้องพูดถึง

แค่ลุ้นว่า ไม่ให้ขาดทุนก็เหนื่อยแล้ว

เอาล่ะ! ไม่ต้องพูดพร่ำให้รำคาญ มาลองดูกันเลยว่า การลงทุนแบบไหนโดนใจกว่ากัน

ไม่ต้องมีปั๊มน้ำมันเป็นของตัวเอง ไม่ต้องลงทุนซื้อรถบรรทุกน้ำมัน ก็เป็น “เศรษฐีน้ำมัน” ได้ ขอแค่มีเงินลงทุนสัก 1.605 แสนบาท ก็พอแล้ว หรือถ้ายังมีไม่พอก็ขอแค่ 1 ใน 4 ก็พอลุ้น

บริษัทค้าน้ำมันรายหนึ่ง สมมติว่าชื่อ ก.เอ๋ย ก.ไก่ มีมูลค่าการซื้อขายน้ำมันแต่ละปีเป็นร้อยๆ ล้าน แต่ดันเงินทุนขาดมือ จะไปกู้ธนาคารตอนนี้ก็แสน จะยุ่งยาก เลยอยากจะขอกู้เงินนักลงทุนผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลให้มาเป็นเจ้าหนี้ รับรองว่า จะให้ผลตอบแทนแบบยากจะปฏิเสธ

เงินที่ยืมมา 1.605 แสนบาท บริษัทจะนำไปลงทุนซื้อน้ำมัน 1 คันรถบรรทุก จากนั้นจะนำไปส่งให้ปั๊มน้ำมัน และจะแบ่งผลตอบแทนให้เจ้าของเงินเดือนละ 1.2 หมื่นบาท

แต่ถ้าทุกสิ้นปี ก็ขอหักค่าหักภาษีการค้า 4% ของผลประโยชน์ที่ได้ทั้งปี และค่าเด็กปั๊มเดือนละ 100 บาท

แค่นั่งเฉยๆ ปีเดียวก็ได้ผลตอบแทน 86% แล้ว!

ข้าวหอมมะลิไทย ใครๆ ในโลกก็รู้จัก ปลูกในไทยส่งออกไปทั่วโลก ให้ยากดีมีจนคนมันก็ต้องกินข้าว แต่นักลงทุนอย่างเราไม่ต้องไปก้มๆ เงยๆ ปลูกข้าวให้เสียเวลา ไม่ต้องไปลุ้นว่า น้ำจะท่วม นาจะล่ม เพราะแค่มีเงิน 1,450 บาท ก็ร่วมถือหุ้นกับบริษัท ผู้ส่งออกข้าวสารได้แล้ว

ลงทุน 1 หุ้น เป็นเงิน 1,450 บาท จะได้ ข้าวสารไปกินฟรีๆ 1 กระสอบ แต่ถ้าที่บ้านมี ข้าวสารเหลือกินเหลือเก็บ แล้วจะขายคืนให้กับบริษัทก็ได้ บริษัทจะให้เงินคืนไปกระสอบละ 700 บาท เท่ากับว่าใช้เงินลงทุนจริงๆ แค่หุ้นละ 750 บาท เท่านั้นเอง

แต่พอถึงเดือนที่ 3 จะได้ผลตอบแทนก้อนแรกมานอนกอดไปก่อน 500 บาท และพอถึงเดือนที่ 6 ค่อยรับอีกก้อนหนึ่ง 1,500 บาท เท่ากับว่าได้ผลตอบแทน 2,000 บาท จากเงินลงทุนแค่ 750 บาท หรือ 266% ภายในเวลา 6 เดือน

นี่ยังไม่รวมค่าแนะนำสมาชิกอีก เพราะถ้ารวยแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เราจะได้ค่าแนะนำอีกต่อหนึ่งด้วย โดยจะได้ 100 บาทต่อสมาชิกที่แนะนำได้ 1 คน และถ้าสมาชิกที่เราแนะนำไปหาสมาชิกมาเพิ่ม เราก็จะได้ค่าแนะนำ 25 บาท และจะได้อีก 10 บาท ถ้าสมาชิกของสมาชิกของเราไปแนะนำสมาชิกอีกต่อหนึ่ง

เท่านี้ก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว!

เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเองอาจจะเหนื่อยตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ถ้าลงทุนร้านก๋วยเตี๋ยวแบบแฟรนไชส์กับบริษัท ข.ไข่ ในเล้า นอกจากจะไม่ต้องวุ่นวาย กับการขายแล้ว ยังได้ทั้งเงินต้นและกำไร คิดเป็น ผลตอบแทน 214-222% ภายในเวลาเพียงแค่ 10 เดือน

มีเงินลงทุนมากก็ลงทุนแบบ “หม้อใหญ่” ใช้เงินลงทุน 4.5 หมื่นบาท จะได้ผลตอบแทนเดือนละ 1 หมื่นบาท เป็นเวลา 10 เดือน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นการคืนเงินลงทุน 4,500 บาท และกำไร 5,500 บาท คิดแล้วจะได้ผลตอบแทน 222%

ถ้ามีเงินน้อยก็ลงทุนน้อยแบบ “หม้อเล็ก” ใช้เงินลงทุนแค่ 3.5 หมื่นบาท ได้ผลตอบแทนเดือนละ 7,500 บาท เป็นเวลา 10 เดือน และเช่นเดียวกันในจำนวนนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เงินลงทุน 3,500 บาท และกำไร 4,000 บาท

คิดเป็นผลตอบแทนก็สูงลิ่วถึง 214%

ร้านก๋วยเตี๋ยวจงเจริญ!

ไปเก็งกำไรซื้อขายยางพารากันไหม ไม่ต้องมีความรู้ ไม่ต้องไปซื้อขายเอง แค่ลงทุน 1-1.2 แสนบาท เดือนเดียวได้กำไร 6,000-8,000 บาทแล้ว ถ้าลงทุน 1.2 แสนบาท แค่ 1 ปีก็รับไปเหนาะๆ 2.4 แสนบาท

ถ้าเป็นคนใจดีแบ่งเพื่อนรวย ก็จะได้ผลตอบแทนเพิ่มอีก 5% ของเงินลงทุนที่ไปหามา เพราะฉะนั้นถ้าชวนเพื่อน 6 คน แต่ละคนลงทุน 1 แสนบาท เราก็ได้ส่วนแบ่งคนละ 5,000 บาท รวมแล้วก็ 3 หมื่นบาท

เพื่อนๆ จ๋า! อยู่ที่ไหนมาลงทุนกันดีกว่า

ถ้าการลงทุนแบบอื่นๆ ยังกำไรช้าเกินไป มาลองลงทุนกับบริษัท ค.ควาย ไถนา เป็นการระดมทุนผ่านอินเทอร์เน็ตที่จะให้ผลตอบแทนกันเป็นรายวันเลย (ยกเว้นวันหยุด) แถมยังมีโอกาสลุ้นโบนัสก้อนโต 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ

การลงทุนแบ่งออกเป็น 3 แบบ ตามกำลังทรัพย์ของนักลงทุน แต่กำลังน้อยก็จะได้ผลตอบแทนน้อยตามไปด้วย

แบบที่ 1 เงินลงทุน 100-499 เหรียญสหรัฐ จะได้ผลตอบแทนวันละ 2.5% ถ้าลงทุน 100 เหรียญสหรัฐ แค่ 40 วันก็ได้ทุนคืนแล้ว และ ถ้าลงทุนไปจนครบรอบ 100 วัน จะได้เงิน 250 เหรียญสหรัฐ

แบบที่ 2 เงินลงทุนเพิ่มมาหน่อย 500-999 เหรียญสหรัฐ จะได้ผลตอบแทนวันละ 2.8% ถ้าลงทุน 500 เหรียญสหรัฐ แค่ 35 วันก็ได้ทุน คืนแล้ว และถ้าลงทุนไปจนครบรอบ 100 วัน จะได้เงิน 1,400 เหรียญสหรัฐ

แบบที่ 3 เงินลงทุน 1,000-1 หมื่นเหรียญสหรัฐ จะได้ผลตอบแทนถึง 3% ต่อวัน ถ้าลงทุน 1,000 เหรียญสหรัฐ แค่ 33 วันก็ได้ทุนคืนแล้ว และ ถ้าลงทุนไปจนครบรอบ 1,000 วัน จะได้เงิน 3,000 เหรียญสหรัฐ

ถ้าไปแนะนำสมาชิกก็จะได้ผลตอบแทน 10-15% เพิ่มจากผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน ทั้ง 3 แบบด้วย

แต่ที่น่าสนใจมากที่สุด คงจะเป็นเงินโบนัส เพราะบริษัทจะหัก 10% ของผลประโยชน์ที่ได้ไปสะสมไว้ โดย 2,048 รหัสแรก (ทั่วโลก) ที่ได้ครบ 55 เหรียญสหรัฐก่อน จะได้รับโบนัสพิเศษก้อนนี้ ไปครอบครอง 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือ 3.5 แสนบาท

โอ้ว! มีหรือจะปล่อยให้หลุดมือ

เวลาหวยออกต้องลุ้นกันตัวโก่งว่า เลขเด็ดเจ้าพ่อดังจะแม่นจริงไหม แต่ถ้าลงทุนซื้อสลาก กินแบ่งรัฐบาลก็ไม่ต้องลุ้นเลย เพราะทุกๆ 15 วัน จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนซื้อสลาก 1 เล่ม ราคา 3,720 บาท เท่ากับจะได้ส่วนแบ่งจากการขาย เดือนละ 270 บาท หรือ 7.6%

แต่ลงทุนครั้งแรกต้องซื้อไม่ต่ำกว่า 50 เล่ม

ผลตอบแทนดีๆ แบบนี้ไม่ได้มีกันมาให้เห็นได้บ่อยๆ เพราะต้องรู้จักกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำให้ได้รับโควตามาเป็นกรณีพิเศษออกมาให้นักลงทุนได้ร่วมรับความรวย!

บริษัท ง.งู ใจกล้า เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพระดับจักรวาลหลายรายการ อาทิ อาหารเสริม ของกิน ของใช้ หรือจะเป็นจาน ดาวเทียม ก็ทำได้ แต่ไม่อยากจะนำสุดยอดสินค้าไปวางขายร่วมกับสินค้าอื่นๆ ให้เสียเกรด

เลยมอบโอกาสรวยให้กับทุกๆ คน จะเข้ามาเป็นผู้บริโภค ก็จะได้ซื้อสินค้าราคาพิเศษ แถมยังได้ค่าขนมอีกนิดหน่อย ถ้าไปชวนเพื่อนมาซื้อด้วย หรืออยากจะข้ามขั้นจากผู้บริโภคมาเป็น “ผู้ร่วมลงทุน” ก็รับรองเลยว่า เพียงแค่เวลา 60 วัน คุณจะได้รับผลตอบแทนไปง่ายๆ สบายๆ 142%

แต่ทุกคนต้องเริ่มต้นที่แผน A เหมือนกัน คือ ต้องสมัครสมาชิกเป็นเงิน 100 บาท และต้องซื้อ สุดยอดสินค้าของบริษัทขั้นต่ำ 1,500 บาท จากนั้นจึงเข้าสู่แผน B คือ การลงทุน

นักลงทุนจะต้องลงทุนอย่างน้อย 5 หน่วย หน่วยละ 800 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 4,000 บาท

พอลงทุนไปแล้วก็นั่งรอสบายๆ แค่ 20 วันก็จะได้ทุนคืน เพราะบริษัทจะจ่ายให้ 4,000 บาท หลังจากนั้นอีก 20 วันต่อมา ก็จะได้รับผลตอบแทนอีก 2,000 บาท และอีก 2,000 บาท ในอีก 20 วันถัดไป เป็นอันว่าจบขั้นตอนการลงทุน

แต่ขอร้องอย่าได้รวยเพียงลำพัง ไปชวนเพื่อนพ้องน้องพี่มาช่วยกันรวย

เพราะยิ่งไปชวนคนมารวย เราก็จะได้ค่า แนะนำสมาชิกไปเป็นค่าขนมด้วย โดยค่าแนะนำสมาชิกชั้นแรกจะได้ 100 บาท ชั้นที่ 2 ได้ 40 บาท ชั้นที่ 3 ได้ 30 บาท ชั้นที่ 4 ได้ 20 บาท ชั้นที่ 5 และ 6 จะได้ 15 บาท

แบบนี้ รับรองเพื่อนรักเราตายเลย

ฝรั่งเงินเหลือค่ะ เลยอยากจะแบ่งปันให้กับ “ชนกลุ่มน้อย” ที่ลำบากยากแค้นในประเทศไทย เป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท แต่ฝรั่งก็ช่างกระไรจะ ให้เงินทั้งทีก็ดันให้เป็นตั๋วแลกเงินฉบับละ 500 ล้านยูโร (1 ยูโร ก็ราวๆ 45 บาท 500 ล้านยูโร ก็ 2.25 หมื่นล้านบาท)

ถ้าไม่เชื่อ ก็มีตั๋วแลกเงินกองโตมาโชว์กันให้เห็นจะจะ

แต่ก็เพราะตั๋วแลกเงินเจ้าปัญหานี่ล่ะ ถึงทำให้ชนกลุ่มไม่น้อยอย่างเราได้มีโอกาสได้ผลประโยชน์กับเขาด้วย เพราะการนำตั๋วแลกเงินจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนี้ไปขึ้นเงินกับธนาคาร ก็ต้องมีค่าธรรมเนียม ค่าบริการเป็นเงินหมื่น แล้วชนกลุ่มน้อยเขาจะไปหาเงินมาจากไหน

อย่ากระนั้นเลย ขอเชิญพ่อแม่มาร่วมลงทุน เพียงแค่ช่วยเหลือค่าธรรมเนียมในการแลกตั๋วเงินเป็นเงิน 1 หมื่นบาท กองทุนจะแบ่งเงินให้ไปเลย 1 ล้านบาท (แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงอยู่แล้ว เพราะฉบับหนึ่งได้เงินตั้ง 2 หมื่นล้านบาทแน่ะ)

ลงทุนแค่ 1 หมื่นบาท ได้กำไรมาฟรีๆ 9.9 แสนบาท แล้วแบบนี้ใครจะปฏิเสธได้ลงคอ

แต่...เอ่อ! ต้องขอโทษด้วย ถ้าจะทำให้ฝัน ของทุกคนสลายหายไปกับอากาศ เพราะการลงทุน ที่รวยง่าย รวยไว พวกนี้ต่างเป็นกลยุทธ์ของ “แชร์ลูกโซ่” ที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มือปราบแชร์ลูกโซ่รวบรวมไว้

ตั้งแต่แชร์น้ำมัน แชร์ข้าวสาร แชร์ยางพารา แชร์ก๋วยเตี๋ยว สารพัดแชร์ ไปจนถึงการลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ต และกองทุนชนกลุ่มน้อย

สัปดาห์หน้ามาติดตามกันว่า คนลวงพวกนี้มีเล่ห์ร้ายอะไรที่จะมาหลอกล่อให้พวกเราติดกับอีก

----------------------------------------------------------------- 

หวังว่าคงจะไม่มีใครหลงไปติด “กับดักความ รวย” ที่เอามาล่อลวงกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะทั้งหมดต่างเป็นเล่ห์ร้ายของคนลวง ที่งัดออกมาหลอกลวงประชาชนคนตาดำๆ ที่เชื่อว่า วิธี “รวยเร็ว รวยลัด” นั้นมีอยู่จริง

เหล่าอาชญากรทางเศรษฐกิจกันหน้าดำคร่ำเคร่งแค่ไหน มันก็เพียงแค่สลบไปชั่วคราว ไม่นานก็จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบที่แยบยลกว่าเดิม

ยิ่งยุคไหนเศรษฐกิจฟุบ คนลวงพวกนี้ยิ่งเฟื่องฟู แพร่พันธุ์เร็วยิ่งกว่าเห็ดราในหน้าฝนเสียอีก เพราะฉะนั้น ก็ต้องมากระชากหน้ากากพวกอาชญากรทางเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้หลวมตัวตกเป็นเหยื่อ “แชร์ลูกโซ่” ที่ต่อให้มารูปแบบไหน ซับซ้อนอย่างไร ก็พอจะเดาได้ว่าไม่ได้มาดีแน่ๆ เพราะจริงๆ แล้วพวกนี้มี “หลักการ” อยู่ไม่กี่ข้อ

กำไรสูงอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ให้ผลตอบแทนน้อยๆ เพราะธุรกิจที่เราจะเข้าไปลงทุนเป็น “ธุรกิจมหัศจรรย์” ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกรรม อุ้ย! เป็นกอบเป็นกำ อย่างที่ไม่มีใครในโลกจะปฏิเสธผลกำไรที่แสนจะงดงามแบบนั้นได้ลงคอ
ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ให้ผลตอบแทนช้า เพราะถ้าได้เงินช้ามันก็ไม่ใช่ธุรกิจมหัศจรรย์น่ะสิ แถมยังอาจจะไม่ทันอกทันใจนักลงทุนที่อยากเห็นเงินก้อนโตภายในเวลาไม่กี่เดือน

เพราะฉะนั้น คำโฆษณาชวนเชื่อที่ได้ยินกันบ่อยๆ ก็หนีไม่พ้น
รวยเห็นๆ 6 เดือน 266%
10 เดือนกำไร 222%
กำไรเดือนละ 68%
กำไรทุกวัน วันละ 3%
ทุก 15 วัน รับไปเลย 7.6%
แค่ 60 วัน ได้ 142%
ทั้งๆ ที่การลงทุนที่ให้กำไรสูงๆ ในเวลาสั้นๆ มักไม่มีจริง

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มือปราบแชร์ลูกโซ่ บอกว่า ถ้าเป็นการทำธุรกิจปกติ การทำกำไรให้ได้เกิน 20% ต่อปี คงจะเป็นเรื่องยาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
“หากมีการเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่า 20% ต่อปี หรือผลตอบแทนที่สูงมากในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือแม้แต่ 1 ปี ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า อาจจะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่”

ไม่ต้องลงแรง แค่ลงเงิน

               
ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่บอกว่า คิดจะลงทุนต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้กำไร แต่ดูเหมือนว่าเงินจะงอกเงยออกมาอย่างรวดเร็วจนเก็บเกี่ยวกันแทบไม่ทัน ทุกอย่างดูง่ายดาย ไม่ต้องใช้แรงกาย ไม่ต้องขายสินค้า เพียงแต่ต้องใช้ “เงินต่อเงิน”

เพราะฉะนั้น...
 ไม่ต้องมีปั๊มน้ำมันเป็นของตัวเอง ไม่ต้องลงทุนซื้อรถบรรทุกน้ำมัน ก็เป็น “เศรษฐีน้ำมัน” ได้
 ไม่ต้องไปก้มๆ เงยๆ ปลูกข้าวให้เสียเวลา ไม่ต้องไปลุ้นว่า น้ำจะท่วม นาจะล่ม เพราะแค่มีเงิน 1,450 บาท ก็ร่วมถือหุ้นกับบริษัทผู้ส่งออกข้าวสารได้แล้ว
 เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเองอาจจะเหนื่อยตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ถ้าลงทุนร้านก๋วยเตี๋ยวแบบแฟรนไชส์ นอกจากจะไม่ต้องวุ่นวายแล้ว ยังได้ทั้งเงินต้นและกำไร ภายในเวลาเพียงแค่ 10 เดือน
 ไปเก็งกำไรซื้อขายยางพารากันไหม ไม่ต้องมีความรู้ ไม่ต้องไปซื้อขายเอง ลงทุน 1 แสนบาท เดือนเดียวได้กำไร 6,000 บาทแล้ว
 แค่มีอินเทอร์เน็ตกับเงินลงทุนนิดหน่อยก็มีโอกาสลุ้นโบนัสก้อนโต 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ

ทั้งๆ ที่ไม่มีธุรกิจไหนเลยที่สามารถทำกำไรได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องมีความรู้และความเข้าใจในธุรกิจนั้นแม้สักนิดเดียว
แต่อย่าถามว่าจะต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง นั่นเพราะแชร์ลูกโซ่เป็นธุรกิจมหัศจรรย์ (จริงๆ) ที่สามารถพลิกแพลงให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะฉะนั้นไม่มีใครบอกได้ว่าจะเป็นสินค้าอะไร หรือบริการแบบไหน เพราะสินค้าทุกชนิดและบริการทุกแบบสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือของแชร์ลูกโซ่ได้ทั้งนั้น

ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดัชนีหุ้น วันพักผ่อน ข้าวสาร รถเช่า เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำตาล ยางพารา ก๋วยเตี๋ยว บัตรเติมเงิน ไปจนถึงจานดาวเทียม ซึ่งมักจะเป็นสินค้าที่กำลังได้รับความสนใจในแต่ละยุคแต่ละสมัย

ขณะที่รูปแบบการทำกำไรจะมีทั้งการลงทุนในสินค้า และแอบแฝงมาในรูปแบบของธุรกิจขายตรง ที่ใช้การตลาดหลายชั้น (MLM) รวมทั้งธุรกิจแฟรนไชส์

ถ้าเป็นแชร์ลูกโซ่ที่แฝงตัวมาในแบบของ MLM ก็ให้สังเกตง่ายๆ ว่า มักจะเป็นงานขายที่ง่ายกว่าการขายทั่วๆ ไป เพราะเป็นงานขายที่ไม่ต้องขาย เรามีหน้าที่เพียงแค่ไปตามหา “ผู้โชคดีคนต่อไป” เท่านั้นเอง
เมื่อเป็นงานขายที่ไม่ต้องขาย ก็ทำให้สัดส่วนรายได้จะมาจากการหาสมาชิกมากกว่าการขายสินค้า เพราะการจะมาเป็นสมาชิกต้อง “เสียค่าสมัคร” แถมด้วยการบังคับให้ซื้อสินค้าที่บอกว่า คุณภาพยอดเยี่ยมสุดยอดไม่มีที่ไหนเทียบได้ (แต่กลับไม่เน้นการขายสินค้า)

“ถ้าเป็น MLM จริงๆ จะต้องไม่มีการบังคับซื้อสินค้า และรายได้หลักจะต้องมาจากการขายสินค้าไม่ใช่การหาสมาชิก ซึ่งมีหลายบริษัทที่มาจดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรงที่ถูกต้อง แต่พอทำไปสักระยะก็เปลี่ยนรูปแบบการตลาดไปเป็นแชร์ลูกโซ่” มือปราบแชร์ลูกโซ่ให้ข้อสังเกต

เงินเก่าจ่ายเงินใหม่
ไม่มีเจ้ามือแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ได้เงินงวดแรกแล้วเชิดหนีไป แต่จะ “วางเหยื่อล่อ” ให้เข้ามาติดกับดักกันมากๆ แล้วค่อยชิ่งหนี เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม

เพราะฉะนั้น คนลงทุนในช่วงแรกจะได้กำไรจริง ได้จับเงินจริง
แล้วมิจฉาชีพพวกนี้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้กับนักลงทุน ถ้าไม่ใช่นำเงินของคนที่เข้ามาใหม่จ่ายให้คนที่เข้ามาก่อน เพราะฉะนั้นพวกนี้จึงพยายามให้เราไปชักชวนญาติพี่น้องเข้ามาติดบ่วงกันถ้วนหน้า

ขณะที่เราก็คนไทยน้ำใจดีเห็นการลงทุนที่กำไรดี กำไรเร็ว ก็อยากให้ญาติมิตรได้รวยเหมือนๆ กัน ไปชักชวนกันมาทั้งหมู่บ้าน แล้วก็พากันล่มจมไปตามๆ กัน เพราะกว่าจะรู้ตัวเจ้ามือใหญ่ก็หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว

เจ้ามือพวกนี้จะมีอยู่ 2 แบบ คือ พวกที่กินอิ่มแล้วตีจาก กับพวกยังกินไม่อิ่มแต่ไม่มีเหยื่อให้กินอีกแล้วเลยจำเป็นต้องเผ่น
พวกแรกจะเจ็บแสบกว่ามาก เพราะกำลังเพลิดเพลินกับกำไรอยู่ดีๆ เจ้ามือเกิดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ปิดบริษัทหายไปกับความมืด

แต่ถ้าเป็นพวกที่สองจะค่อยๆ มีพัฒนาการที่พอจะให้ระแคะระคายได้บ้าง เพราะจากที่จ่ายเงินตรงเวลา ก็เริ่มจ่ายช้า อ้างโน่นอ้างนี่สารพัด ผ่านไปสักพักจะเริ่มจ่ายเงินไม่ครบตามที่สัญญา และก็มักจะมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือเช่นเดิม ซึ่งในช่วงนี้อาจจะติดต่อยาก หาตัวได้ลำบาก จนกระทั่งวันหนึ่งก็จากไปอย่างถาวร
และพาดหัวข่าวประเภทนี้ก็จะปรากฏขึ้นมาแทน
 แจ้งจับบริษัทฝรั่ง ตุ๋นลงทุนผ่านเว็บ
 ‘แชร์รถทัวร์’ โผล่ตุ๋นคนหาดใหญ่
 แชร์ใหม่ระบาด ส่งยางแทนเงิน เทขายฟันกำไร
 ตุ๋นแชร์ท่องเที่ยว! หอบ 20 ล. หายจ้อย
 สาวแสบโกงแชร์ 100 ล้าน ชาวแฟลตแห่พึ่ง ตร.ล่าตัว
 ดีเอสไอ ไล่จับ แชร์ % ‘น้ำมันทอง’

ความโลภเป็นเหตุ
ไม่มีแชร์ลูกโซ่แบบไหนเข้ามาทำอันตรายเราได้ ถ้าเราไม่มีความโลภ เพราะเมื่อความโลภเข้าครอบงำจะทำให้สายตาพร่ามัว ไม่ติดใจสงสัยว่าผลกำไรมากมายมหาศาลที่เขายกขึ้นมาหลอกล่อเรานั้นมันทำได้จริงหรือไม่

เหยื่อแชร์ลูกโซ่มักจะมีเหตุผลอยู่ไม่กี่ข้อที่ทำให้หลวมตัว
 ก็เขาจ่ายได้จริงๆ
 เกรงใจเพื่อนชวน
 เขาพูดน่าเชื่อถือ

แต่จะมีกี่คนที่ยอมรับว่า ที่หลงเป็นเหยื่อเพราะ “ความโลภ” ซึ่งอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในฉับพลันที่ได้รับการชักชวนให้ร่วมขบวนการ เพราะแรกๆ อาจจะไม่เชื่อ แต่พอเห็นเพื่อนเขาได้เงินกันจริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะอยากได้บ้าง
ลองถอยออกมาหนึ่งก้าวแล้วถามตัวเองว่า ในโลกนี้มันจะมีการลงทุนอะไรที่ให้ผลตอบแทนดีขนาดนั้น แต่ถ้าถอยออกมาแล้ว สายตาก็ยังไม่ปรับโฟกัสให้ดีขึ้น ก็ลองไปถามผู้รู้ อาทิ

กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง สายด่วน 1359
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สายด่วน 1166
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หมายเลขโทรศัพท์ 022193600
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 029136789 และ 028319888
หรือถ้าไม่รู้จักใครที่ไหน เข้าไปถามตำรวจในพื้นที่ก็ได้

ถ้าเขาดีจริง เขาก็คงจะไม่หายไปไหนง่ายๆ รับรองว่าได้ลงทุนแน่ๆ คิดเสียว่า ได้กำไรน้อย เพราะก้าวเข้าไปช้า ยังดีกว่าสูญเงิน เพราะก้าวเข้าไปเร็วเกินไป

  แชร์ลูกโซ่ ธุรกรรมแห่งความโลภ

บทความโดย : สวลี ต้นกุลรัตน์

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 8 พ.ย. 2551 และ 15 พ.ย. 2551