ReadyPlanet.com
dot
คลังข้อมูลนักบัญชี
dot
bulletมุมบัญชี
bulletสภาวิชาชีพบัญชี
bulletกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
bulletธนาคารแห่งประเทศไทย
dot
ภาษี (Tax)
dot
bulletกรมสรรพากร
bulletสถานที่ตั้ง/เบอร์โทร สรรพากร
bulletประมวลรัษฎากร
bulletหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย
bulletDownload File บัญชี - ภาษี
dot
รวม Link เอนกประสงค์
dot
bulletอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารต่างๆ
bulletอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์
bulletธนาคารพาณิชย์ต่างๆ
bulletหน่วยบริการภาษีใน กทม.
bulletตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
bulletพจนานุกรมไทย
bulletDictionary อังกฤษ > ไทย
bulletเบอร์โทรศัพท์ - พกไว้คู่กาย
bulletรวมเบอร์โทรเรียก แท็กซี่
bulletชมคลิปวีดีโอ เมืองไทยในอดีต
dot
ค้นหาบทความในเว็บไซต์

dot
dot
บริการของเรา (Service)
dot


รับทำบัญชี



เฉื่อยชาพาล้มเหลว

 

                                                                            เฉื่อยชาพาล้มเหลว  

 

             ความสำเร็จกับความล้มเหลวดูเหมือนจะมีแค่เส้นบาง ๆเป็นตัวกั้นเอาไว้เท่านั้น เพราะยิ่งทุกวันนี้คนเราเริ่มเก่งใกล้เคียงกัน ฉลาดเท่าๆกัน แถมยังใช้เครื่องไม้เครื่องมือใหม่หาข้อมูลต่างๆได้เหมือนกัน ก็น่าจะทำให้ความแตกต่างระหว่างคนน้อยลงไปอีกมาก แต่เอาเข้าจริงๆแล้วกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะนับวันเราจะเห็นความแตกต่างของคน “สำเร็จ” กับ “ล้มเหลว” ได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และคนล้มเหลวก็ดูจะผลักดันตัวเองให้ขึ้นมาสู่ความสำเร็จได้ยากกว่าเดิม
 
ลองมาวิเคราะห์ดูถึงปัจจัยที่ทำให้คนล้มเหลวดูแล้ว ผมเชื่อว่าแต่ละคนล้วนมีชนักติดหลังเหมือนๆกันอยู่ประการหนึ่งนั่นคือนิสัย “เรื่อยเฉื่อย” ที่แก้ไม่หายสักที จนบานปลาย แม้ว่าจะรู้ตัวว่ามีนิสัยนี้อยู่แต่ก็แก้ไม่ได้สักที
 
ทุกวันนี้เราจึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ติดนิสัยเรื่อยเฉื่อย เพราะรู้สึกว่าการใช้ชีวิตเรื่อยๆเฉื่อยๆแบบนี้เป็นการใช้ชีวิตอยู่ใน “เขตปลอดภัย” ที่ดีเนื่องจากไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย และไม่ต้องกดดันตัวเองในการแสวงหาความสำเร็จ

              
 
คนเรื่อยเฉื่อยจึงมีแนวโน้มที่จะยอมรับการใช้ชีวิตไปวันๆของตัวเอง ส่วนใหญ่มักเชื่อว่าชีวิตเป็นแบบนี้เพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต และเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แม้เขาจะดูยอมรับตัวเองได้ดีแต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาคงแสวงหาความสำเร็จในชีวิตได้ยากเย็น
 
ตรงกันข้ามกับคนอีกจำพวกหนึ่งที่ไม่พอใจในตัวเอง แม้จะมีข้อจำกัดในชีวิตมากมายแต่ก็เข้าใจและหาทางเอาชนะ และยังกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนจำพวกนี้มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จสูงกว่าแบบแรกหลายเท่า
 
ส่วนตัวผมแล้ว “คนเรื่อยเฉื่อย” แม้จะมีแนวโน้มไปสู่ความล้มเหลว แต่ก็ยังน่าห่วงกว่า “คนล้มเหลว” หลายเท่า เพราะคนล้มเหลวหากไม่ใช่คนเรื่อยเฉื่อย เขาก็ย่อมได้เรียนรู้หนทางการแก้ไขในอนาคต แถมยังได้บทเรียน และรู้จักทางเลือกต่างๆในการแสวงหาความสำเร็จได้ต่อไป
 
ในขณะที่คนเรื่อยเฉื่อย เมื่อล้มเหลวส่วนใหญ่ก็มักจะโทษทุกสรรพสิ่งรอบตัว โดยไม่คิดวิเคราะห์หาจุดอ่อนของตัวเอง สุดท้ายแล้วก็มักจะยอมรับความล้มเหลวนั้นๆโดยไม่คิดแก้ไขอะไร เพราะคิดว่าเป็นธรรมชาติของชีวิตตัวเอง และพร้อมจะล้มเหลวต่อได้อีกในอนาคต
 
คิดถึงตัวเอง และลองเหลียวมองคนรอบข้างดูว่ามีใครมีลักษณะแบบนี้ไหม อาจจะพบได้มากมาย เพราะคนเรื่อยๆเฉื่อยๆแบบนี้มีบุคลิกชัดเจน ที่สังเกตได้จากนิสัยพื้นฐานที่มีอยู่เหมือนๆกันดังต่อไปนี้คือ
 
ข้อแรก “สงสารตัวเอง” แม้จะอยู่ในภาวะที่ตัดสินใจแก้ไขอะไรได้ แต่ก็ไม่ทำและสงสารตัวเองไปเรื่อยๆ เช่นไม่ชอบงานที่ทำ แต่ก็ไม่ปริปากบ่น เพราะดีกว่าตกงานและทำไปได้เรื่อยๆ ถึงจะเกลียดงานก็ได้แต่สงสารตัวเองแล้วยอมรับสภาพไปวันๆ
 
สุดท้ายแล้วก็ต้องหาทางให้กำลังใจตัวเอง และปลอบใจตัวเองไปเรื่อยๆ ว่าตัวเองยังใช้ได้โดยไม่คิดจะแก้ไขอะไรทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่าการทู่ซี้ทำงานที่ไม่ชอบ ก็ย่อมไม่มีทางได้ดี หรือประสบความสำเร็จไปได้แน่ๆ
 
ข้อสอง “มันไม่ใช่ความผิดของฉัน” เราจะเห็นนิสัยนี้เยอะไปหมด ลองคิดถึงประโยค “ผมทำไม่ได้เพราะนายไม่สนับสนุน” หรือ “เราทำพลาดไปเพราะเศรษฐกิจไม่ดี” หรือ “เพราะครอบครัวไม่ช่วยเหลือ” ฯลฯ สารพัดคำอ้าง ยกเว้นตัวเองที่ทำทุกอย่างดีหมดแล้ว
 
คนแบบนี้เชื่อว่าสภาพแวดล้อมสำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งที่จริงๆแล้ว “ตัวเอง” นั่นแหละที่สำคัญที่สุด และส่งผลกระทบถึงความสำเร็จและความล้มเหลวให้กับบริษัทได้โดยตรง ซึ่งนับเป็นทัศนคติที่อันตรายอีกข้อหนึ่ง
 
ยังเหลืออีก 4 ข้อที่ต้องขอยกยอดไปในฉบับหน้านะครับ

----------------------------------------------------------------


  เปิดประเด็นไว้ใน “บิสิเนสไทย” ฉบับที่แล้ว ถึงนิสัย “เรื่อยเฉื่อย” ที่อาจติดตัวเราอยู่จนกลายเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย ซึ่งแน่นอนครับว่านิสัยแบบนี้คงไม่ส่งเสริมให้เราก้าวหน้าไปได้แน่ๆ เพราะความเรื่อยเฉื่อย มีแต่พาให้เราวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ และอาจต้องจมอยู่กับความล้มเหลวจนชาชิน
 
นิสัยที่ก่อให้เกิดความเฉื่อยชานั้นมีอยู่ไม่กี่ข้อครับ ซึ่งผมเกริ่นเอาไว้แล้ว 2 ข้อ คือการ “การสงสารตัวเอง” แต่ไม่คิดทำอะไรให้ดีขึ้น กับ “มันไม่ใช่ความผิดของฉัน” เพราะมัวแต่โทษทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกคนรอบตัวโดยไม่เคยพิจารณาตัวเองเลย
 
วันนี้มาต่อกันในข้อที่ 3 “เพราะฟ้าลิขิตมา” ซึ่งเราจะเห็นคนแบบนี้ได้บ่อยๆ ในสังคมบ้านเรา เช่น

มีพ่อกินเหล้า ตัวเองก็ต้องกินเหล้าไปด้วย หรือเรียนมาน้อย ก็ทำได้แค่นี้ไม่มีโอกาสแสวงหาความสำเร็จ เพราะโชคชะตาเป็นแบบนี้ ไม่มีใครแก้ไขได้
 
คนจำพวกนี้จะเชื่อในพลังที่มองไม่เห็นของดวงชะตา ยีน หรือดีเอ็นเอ ที่สืบทอดมาจากครอบครัว และเอาข้อจำกัดในอดีตเป็นตัวกักขังความสำเร็จในอนาคต เช่น พื้นฐานครอบครัว การศึกษา ไอคิว ฯลฯ
 
สุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะไม่มีทางก้าวผ่านข้อจำกัดของตัวเองได้ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่คนเกิดมาเป็นแบบนี้ก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้เท่านั้น ชีวิตจึงค่อยๆ เดินไป ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ แทนที่จะหาจุดเด่นของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินไปข้างหน้าต่อไป
 
ข้อ 4 “ต้อง Perfect เท่านั้น” ซึ่งฟังดูดี เช่น “ถ้ายังเตรียมไม่พร้อม ผมจะไม่ทำเด็ดขาด” หรือ “ถ้า

ผมจะทำเค้ก มันต้องอร่อยที่สุด ไม่งั้นผมจะไม่ทำเลย” ฯลฯ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วคนกลุ่มนี้จะอาศัยความสมบูรณ์แบบนั้นเป็นเหตุผลที่จะไม่ทำอะไรใหม่ๆต่างหาก
 
ในโลกธุรกิจงานบางอย่างเราอาจจำเป็นต้องทำไปก่อนเพื่อเรียนรู้และแก้ปัญหาในภายหลัง และคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะมาจากการเรียนรู้และเริ่มทำทันที แทนที่จะรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมซึ่งอาจจะสายเกินไป
 
นิสัยแบบนี้จึงเป็นการหลอกตัวเองโดยอาศัยมาตรฐานที่สูงลิบเป็นเครื่องมือในการอ้างที่จะไม่เดินหน้าทำสิ่งใดเลย เพราะไม่มีทางที่ตัวแปรทั้งหมดจะพร้อม 100% ก่อนเริ่มงาน การลงมือทำและค่อยๆปรับแก้ไขกันไปจึงน่าจะได้ผลดีกว่า
 
ข้อ 5 “ไม่มีปัญญาทำ” โดยคนจำพวกนี้มักไม่เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง และคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำงานที่ต้องการได้ โดยมีสาเหตุสารพัด ทั้งการศึกษา ครอบครัว สติปัญญา ฯลฯ จนไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำอะไรสำเร็จได้
 
ผมเชื่อว่าคนเราส่วนใหญ่แล้วถ้าเชื่อว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ ก็มักจะทำไม่ได้จริงๆ หรือไม่ก็ไม่กล้า

ลงมือทำทั้งที่ในวัยเด็กนั้น เราเคยกล้าคิด กล้าทำ มามากมายหลายอย่าง เช่น กล้าคลาน กล้าเดิน หรือแม้แต่วิ่ง จนหกล้ม ฟกช้ำดำเขียว ก็ยังลุกขึ้นมาวิ่งต่อได้
 
เมื่อโตขึ้นมาถึงวัยเรียนเราก็เคยกล้าคิด กล้าทดลอง ฯลฯ แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้วกลับกลัวไปหมด

ทุกเรื่องซึ่งน่าเสียดายมาก ทั้งๆ ที่เรามีจุดแข็งอื่นๆ มากมายซ่อนอยู่แต่กลับถูกตัวเราเองมองข้ามไปจนต้องมาโฟกัสแต่จุดด้อยของตัวเองเท่านั้น
 
ข้อสุดท้ายคือ “หลอกตัวเอง” และคิดเข้าข้างตัวเองอยู่เสมอ เช่น คนที่ติดบุหรี่ มีหลายคนที่คิดว่าการเลิกบุหรี่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ จึงไม่รีบร้อนที่จะเลิกบุหรี่ แต่กลับสูบเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และคิดว่าจะเลิกดูสักวันหนึ่งแต่กลับไม่เคยได้ลงมือทำเลย
 
เหมือนกับคนอ้วนที่มีปัญหาน้ำหนักตัว ก็อาจคิดว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่าย จะทำเมื่อไรก็ได้

จึงไม่คิดจะทำในวันนี้หรือเร็วๆ นี้ สุดท้ายก็ปล่อยตัวเองจนอ้วนขึ้นอีกหลายเท่า ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการหลอกตัวเองและหนีปัญหาไปเรื่อยๆ
 
ทั้ง 6 ข้อนี้ผมเชื่อว่าเป็นนิสัยที่คนเราทั่วไปอาจมีติดตัวอยู่บ้างแต่น่าจะหาทางกำจัดออกจากตัวได้ไม่ยาก แต่อย่าเผลอ “เรื่อยเฉื่อย” จนติดเป็นนิสัยทั้ง 6 ข้อ ซึ่งจะทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ยากเย็น เราจึงต้องกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อเอาชนะใจตัวเองอยู่เสมอนะครับ


บทความโดย : แจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ

ที่มา : Business Thai ฉบับวันที่  26-9-2008 และ 7-10-2008




รวมแนะนำบทความดีๆ

ทำไมผมถึงต้องกราบยาม
ครูกับนักเรียน
10 ไอเดียออมเงินง่ายๆ แต่ได้ผลดี
จะดีแค่ไหนที่เรารู้ว่า ยังมีคนที่คอยดูแล และเป็นที่พึ่งได้เสมอ
คลิปโฆษณาซึ้งๆ "เพราะอนาคตเด็กควรค่าแก่การเสียสละ"
10 นิสัยดีๆที่จะทำให้เรากลายเป็นคนฉลาด
10 สิ่งที่ผู้ชนะชอบทำ
มีเงินเท่าไหร่ ถึงจะพอใช้ยามเกษียณ
ค่าของเงิน
Castaway คนติดเกาะ!! ชีวิตนี้ไม่สิ้นหวัง
ฝึกนิสัยที่ดี จาก 5 ห้องในบ้าน กับ 'อนันต์ อัศวโภคิน' แห่งแลนด์แอนด์เฮาท์
สูตรออมเงินอย่างได้ผล
แรงบันดาลใจ เพื่อค้นหาตัวเอง
ความไว้ใจ
สัญญาณที่ทำให้รู้ว่าชีวิตการทำงานกำลังมาถูกทาง
ก็ยังดีกว่า
พุทธสถาน สถานที่สำคัญทางศาสนา ศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธ
ทำอย่างไร ให้ได้งานทั้งคุณภาพและปริมาณ
เพื่อลูก...
นิทาน เรื่องน้ำกับทิฐิ
ต้นแอปเปิ้ลกับเด็กน้อย
ชาวนากับลาแก่
พระคุณครู...ไม่มีวันเกษียณ
ข้อคิดตามหลักพุทธวจน เพื่อนำไปปฎิบัติในการดำเนินชีวิต
มือของแม่
เข้าใจชีวิต
"บทเรียนมีคุณค่าจากผู้สูงอายุ"...แนะนำให้สอนลูกหลาน
โรคแพ้ไม่เป็น
การลงโทษของพ่อ
จดหมายของพ่อ
สะกิดต่อมแมน...เปิดตำราการเป็นสุภาพบุรษยุคใหม่
6 ขั้นตอนสู่การเป็นผู้มีเงินใช้ไม่ขัดสน
พ่อ...ผู้ชายที่ผมเคยเกลียด
ชีวิตคู่ กับ การทำธุรกิจ
ให้ยืมอย่างไร ตัวเราถึงไม่เจ็บปวด
รวมสุดยอด แรงบันดาลใจ
Book Of The Year : หนังสือที่คนดังได้อ่านในปี’54 แล้วประทับใจ
วิธีดูคน อ่านคน จากสามก๊ก
ความทะนงตนของแมลงวัน
คนมีเสน่ห์
จะเข้มแข็ง...หรือจะอ่อนแอ
ออมวันนี้เพื่อชีวิตที่สุขสบายในวันข้างหน้า
10 วิธีในการคิดต่างตามแบบแอปเปิล
ใช้บัตรเครดิตอย่างไร ไม่ให้เดือดร้อน
ระวังภัย!... “แก๊งโจรกรรมรถ”
ถามเถิดจะเกิดผล
แฉกลโกงใหม่ ! ...ภัยจาก แก๊งค์ Call Center
กำลังใจ
ทำอย่างไรให้ลูกเป็นเด็กสองภาษา
Save Big - แนะวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายก้อนโต
ลัทธิบริโภคนิยม
จับมือฉัน (Hold My Hand)
"คุณเคยทำสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตหรือไม่ ? "
อยากได้เงินเดือนขึ้นทำอย่างไรดี
คุณค่าของคน : อยู่ที่ตัวเอง (นายสตีฟ จอบส์)
วิธีเอาชนะ...ความขี้เกียจ
ถ้าคุณเป็นหนี้ต้องทำอย่างไร
คนรวยด้วยการทำงาน
ทำอย่างไรในเมื่อคุณเกิด...ไม่มีความสุขในการทำงาน
ทำอย่างไรให้รวย
เพื่ออะไร...
งานทรมานกับงานในฝัน
ฝันให้ไกล...ไปให้ถึง
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้
แก้วที่ไม่เคยพอ
เค้าว่ากันว่า...(เรื่องเปรียบเทียบระหว่างหนังสือกับความรัก)
เทคนิคการสร้างภาพลักษณ์ของตนเองให้ประทับใจ
ใบลาออกจากความทุกข์
พฤติกรรมที่นำสู่ความสุข
วิธีพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส
10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่
วิธีปฎิบัติหกประการเพื่อทำให้ผู้อื่นชอบท่าน
ทำยังไงดี เมื่อเงินออมไม่มี เงินที่เป็นหนี้ก็ยังไม่หมด
ชีวิตนี้...ยังมีทิศตะวันออก
"เราควรเอาใจใส่ในงาน...แต่ไม่นำงานมาใส่ในใจ"
" เด็กขี้ขโมย"
สิ่งที่เรามักจะนึกเสียใจก่อนเสียชีวิต
การเงินกับผู้หญิง
พ่อครับ...ผมขอโทษ
พ่อแห่งศตวรรษ (Father of the century)
เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ได้ดี
นิทานของพ่อ
เงินที่หล่นหาย
10 หนทางสู่ความสำเร็จจากนักธุรกิจดัง
วางแผนการเงิน เรื่องของคนทุกวัย
คุณเคยดูถูกคนอื่นว่าแย่กว่าคุณบ้างหรือไม่
บทเรียนชีวิตจาก "ไมเคิล แจ็คสัน" ในแง่การใช้เงิน
วิธีคิดเมื่อต้องเป็นผู้แพ้
ออมสินเวลา
แก้ปัญหาหนี้ด้วยสติ
วางแผนการเงินเป็นเรื่องของทุกคน
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ปัญหามีให้สู้ ไม่ใช่ให้ถอย!!!
ความซื่อสัตย์
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง
Clip ลุกขึ้น!! อีกครั้ง...กำลังใจสำหรับคนที่ท้อแท้
ทำอย่างไรเมื่อ (ใจ) เป็นหนี้
หนุ่มบ้านนอก
คาถาหัวใจเศรษฐี