บริษัท พัฒนกิจ บัญชี ภาษีและฝึกอบรม จำกัด
Pattanakit Accounting Tax & Training Co., Ltd.
59/275 ซอยสุวินทวงศ์ 44 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร 10530
โทรศัพท์ 0-2019-4656 , 0-2023-7182 , 084-1568284, 092-4634120, 098-2529544, Fax 0-2019-4659
Website :https://www.pattanakit.net / Email : pat@pattanakit.net
ทำงานเพื่อยังชีพ หรือมีชีวิตเพื่องาน
ทำงานเพื่อยังชีพ หรือมีชีวิตเพื่องาน
จริงอยู่ถ้าเป็นผู้ที่จบการศึกษาใหม่ ๆ เพิ่งเริ่มต้นเข้าทำงานปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจจะพบเจอไม่มาก แต่พอทำงานไปได้ระยะหนึ่ง คนทำงานเริ่มมีครอบครัว หรือหันมาให้ความสนใจกับชีวิตส่วนตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็น Gen X ทั้งหลาย (พวกนี้อายุปัจจุบันอยู่ในช่วงประมาณ 40 บวก/ลบ) ก็จะเริ่มถึงทางหลายแพร่งระหว่างการเลือกการที่จะเติบโตในวิชาชีพ กับเลือกชีวิตส่วนตัวและชีวิตครอบครัว มีคำถามที่น่าสนใจว่าเมื่อถึงวัยหรือช่วงจังหวะหนึ่งของชีวิตเราจำเป็นต้องเลือกระหว่างอาชีพกับชีวิตส่วนตัวหรือไม่? เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะโดดเด่นทั้งสองด้าน นั่นคือมีความรุ่งโรจน์ ในหน้าที่การงาน ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านตำแหน่ง สถานะทางสังคมและฐานะทางการเงิน ในขณะเดียวกันก็มีครอบครัวที่อบอุ่น มีเวลาให้กับครอบครัว มีเวลาในการดูแลสุขภาพของตนเอง มีเวลาทำในสิ่งที่ตนเองมีความชื่นชอบ(นอกเหนือจากงาน) ฯลฯ ท่านผู้อ่านลองมองไปรอบ ๆ ซิครับ เราจะพบคนที่รุ่งโรจน์และโดดเด่นทั้งสองอย่างยากพอสมควรนะครับ ที่พอจะพบได้ก็คือคุณผู้ชายประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยที่ภรรยาเสียสละออกมาใช้เวลาให้กับครอบครัว แต่เราก็มักจะพบว่า คุณผู้ชายเหล่านี้ก็มักจะกลับบ้านดึก ๆ คํ่าๆ เสาร์ อาทิตย์ ก็ต้องออกไปทำงาน ไปสัมมนา ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับครอบครัวเท่าไร ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Ahead of the Curves เขียนโดยนักหนังสือพิมพ์ซึ่งเข้าไปเรียน MBA ที่มหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ด และสิ่งที่เข้าค้นพบคือบรรดานักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ในอาชีพการงาน และกลับมาพูดให้นักศึกษาที่ฮาร์วาร์ดฟังนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะประสบความล้มเหลวในด้านครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคนที่ผ่านการหย่าร้างมาหลาย ๆ ครั้ง หรือคนที่ไม่มีโอกาสและเวลาในการดูลูกเติบโต หรือมีแม้กระทั่งพวกที่ได้เจอหน้าลูกตอนที่ลูกหลับ เนื่องจากออกจากบ้านตอนเช้าก่อนลูกตื่น และกลับบ้านดึกหลังจากลูกหลับไปแล้ว ในวารสาร Business Week ฉบับเดือนกันยายน ก็ลงบทความใหญ่เรื่องของความสมดุล ระหว่างความก้าวหน้าในอาชีพกับชีวิตส่วนตัวไว้เหมือนกันครับ โดยเขาได้ไปสัมภาษณ์ผู้บริหารของบริษัทต่าง ๆ ไว้หลายคน ซึ่งข้อคิดจากบทสัมภาษณ์เหล่านี้ก็น่าสนใจและน่าเรียนรู้นะครับ ผู้บริหารของธนาคารแห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์ไว้น่าสนใจครับ โดยจากประสบการณ์ เขาพบเจอคนที่หาเงิน มีรายได้สูงจำนวนมาก แต่ปัญหาของคนเหล่านี้คือยิ่งหาเงินได้มาก ก็ยิ่งใช้จ่ายมาก เขาเองได้ รับคำแนะนำที่ดีจากเจ้านายว่า ในการใช้เงินนั้น ให้เริ่มต้นจากการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตัวเราให้ได้ก่อน จากนั้นให้พยายามควบคุมความอยากของตนเอง (โดยเฉพาะความอยากได้ทื่เกินความต้องการพื้นฐาน) และถ้าเราสามารถควบคุมความอยากไว้ได้ เราก็จะมีอิสระทางด้านการเงินในชีวิตเรามากขึ้นและไม่ตกเป็นทาสของการทำงาน หรืออีกนัยหนึ่งคือ Work to live NOT live to work ถ้อยคำภาษาอังกฤษข้างต้นน่าสนใจนะครับ ท่านผู้อ่านลองพิจารณาตัวท่านเองซิ ครับว่า ในปัจจุบันท่านทำงานเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ หรือมีชีวิตอยู่เพื่อการทำงาน? พวกที่ทำงานเพื่อให้มีชีวิต ก็คือพวกที่ทำงานในระดับที่พอเพียง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของชีวิตในด้านต่างๆ เพื่อทำให้รู้สึกว่าชีวิตนี้มีคุณค่า แต่ถ้าท่านเป็นประเภทที่สองคือมีชีวิตอยู่เพื่อการทำงาน ก็คือพวกที่ชีวิตนี้อุทิศแล้วให้กับงาน จะทำทุกอย่างและพร้อมจะเสียสละทุกอย่างในชีวิตเพื่อการทำงาน เชื่อว่าถ้าทุกคนเลือกได้ก็คงจะต้องเลือกเป็นคนประเภทแรกนะครับ เพียงแต่หลายคนอาจจะไม่มีทางเลือก หรือต่อให้มีทางเลือกก็เสพติดงานเข้าไปแล้ว ทำให้ชีวิตนี้ดำรงอยู่เพื่อการทำงานเป็นหลัก มหาตมะ คานธี ท่านได้เคยกล่าวไว้ครับว่า "Work is a means of living, it is not life itself" ท่านผู้อ่านบางท่านอาจจะบอกว่าทุกคนย่อมอยากจะทำงานเพื่อดำรงชีพ มากกว่ามีชีวิตเพื่อการทำงาน แต่ไม่มีูทางเลือก เนื่องจากรายได้ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ หรือมีหนี้สินรุงรังหรือมีภาระรับผิดชอบที่จะต้องดูแลก็เลยอยากจะพาท่านผู้อ่านดูบทสัมภาษณ์ขอููงผ้บริหารอีกท่านหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นก้าวสู่ชีวิตการทำงาน จะได้วางแผนชีวิตได้ถูกต้องและไม่ตกเป็นทาสของงานเหมือนหลาย ๆ คน ที่ไม่มีทางเลือกในปัจจุบัน ผู้บริหารท่านนี้เขาระบุไว้ว่าเขาและภรรยาสามารถสร้างความสมดุลระหว่างอาชีพกับชีวิตส่วนตัวได้ โดยผ่านการวางแผนที่ดี โดยเริ่มต้นจากการเรียนต่อปริญญาโท ในปีแรก ๆ ที่เริ่มทำงาน เพื่อให้มีพื้นฐานและจุดเริ่มต้นที่แน่น และเลือกเรียนในสาขาที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง พยายามใช้หนี้สินให้หมดไปตั้งแต่ปีแรก ๆ ของชีวิตสมรส นอกจากนี้ เขาและภรรยายังพยายามที่จะไม่ก่อหนี้สินต่าง ๆ ขึ้นมา โดยใช้ชีวิตที่พอเพียงและจ่ายทุกอย่างเป็นเงินสด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถด้วยเงินสด ซื้อบ้านหลักแรก ที่ไม่เน้นหรูหรา ไม่เน้นต่อเติม แต่พออยู่ ๆ ไปก็ค่อย ๆ ต่อเติม และการต่อเติมแต่ละครั้งก็ใช้แต่เงินสด ทั้งเขาและภรรยาทำงานทั้งคู่ (มีบุตรสาวสองคน) และในที่ทำงานนั้น ชีวิตการทำงานของทั้งคู่กก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่หวือหวาเท่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แต่ขณะเดียวกันทั้งคู่ก็ภูมิใจว่ามีคุณภาพชีวิตทีดีกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ทั้งคู่ทำงานในบริษัทที่ใช้ระบบ Fixtime นั้นคือเข้าทำงานแต่เช้า และกลับบ้านได้เร็ว ทำให้มีเวลารับลูก เล่นกับลูก และดูแลลูกทุก ๆเย็น อย่างไรก็ดีจากตัวอย่างข้างต้นก็แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารท่านนั้นก็ยังเลือกชีวิตครอบครัูวเหนือความก้าวหน้าในอาชีพการทำงาน อย่ดีนะครับ เพียงแตู่ถ้าเรามีการวางแผนที่ดี และหยุดยั้งความต้องการต่าง ๆ ของเราให้อย่ในระดับูที่พอเพียงได้ เราก็จะสามารถมีคุณภาพชีวิตทีดี และยังสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข ท่านผู้อ่านจะเลือกทางเลือกไหนครับ
บทความโดย : รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มา : เว็บไซต์ห้องสมุดคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
ทำไมผมถึงต้องกราบยาม ครูกับนักเรียน 10 ไอเดียออมเงินง่ายๆ แต่ได้ผลดี จะดีแค่ไหนที่เรารู้ว่า ยังมีคนที่คอยดูแล และเป็นที่พึ่งได้เสมอ คลิปโฆษณาซึ้งๆ "เพราะอนาคตเด็กควรค่าแก่การเสียสละ" 10 นิสัยดีๆที่จะทำให้เรากลายเป็นคนฉลาด 10 สิ่งที่ผู้ชนะชอบทำ มีเงินเท่าไหร่ ถึงจะพอใช้ยามเกษียณ ค่าของเงิน Castaway คนติดเกาะ!! ชีวิตนี้ไม่สิ้นหวัง ฝึกนิสัยที่ดี จาก 5 ห้องในบ้าน กับ 'อนันต์ อัศวโภคิน' แห่งแลนด์แอนด์เฮาท์ สูตรออมเงินอย่างได้ผล แรงบันดาลใจ เพื่อค้นหาตัวเอง ความไว้ใจ สัญญาณที่ทำให้รู้ว่าชีวิตการทำงานกำลังมาถูกทาง ก็ยังดีกว่า พุทธสถาน สถานที่สำคัญทางศาสนา ศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธ ทำอย่างไร ให้ได้งานทั้งคุณภาพและปริมาณ เพื่อลูก... นิทาน เรื่องน้ำกับทิฐิ ต้นแอปเปิ้ลกับเด็กน้อย ชาวนากับลาแก่ พระคุณครู...ไม่มีวันเกษียณ ข้อคิดตามหลักพุทธวจน เพื่อนำไปปฎิบัติในการดำเนินชีวิต มือของแม่ เข้าใจชีวิต "บทเรียนมีคุณค่าจากผู้สูงอายุ"...แนะนำให้สอนลูกหลาน โรคแพ้ไม่เป็น การลงโทษของพ่อ จดหมายของพ่อ สะกิดต่อมแมน...เปิดตำราการเป็นสุภาพบุรษยุคใหม่ 6 ขั้นตอนสู่การเป็นผู้มีเงินใช้ไม่ขัดสน พ่อ...ผู้ชายที่ผมเคยเกลียด ชีวิตคู่ กับ การทำธุรกิจ ให้ยืมอย่างไร ตัวเราถึงไม่เจ็บปวด รวมสุดยอด แรงบันดาลใจ Book Of The Year : หนังสือที่คนดังได้อ่านในปี54 แล้วประทับใจ วิธีดูคน อ่านคน จากสามก๊ก ความทะนงตนของแมลงวัน คนมีเสน่ห์ จะเข้มแข็ง...หรือจะอ่อนแอ ออมวันนี้เพื่อชีวิตที่สุขสบายในวันข้างหน้า 10 วิธีในการคิดต่างตามแบบแอปเปิล ใช้บัตรเครดิตอย่างไร ไม่ให้เดือดร้อน ระวังภัย!... แก๊งโจรกรรมรถ ถามเถิดจะเกิดผล แฉกลโกงใหม่ ! ...ภัยจาก แก๊งค์ Call Center กำลังใจ ทำอย่างไรให้ลูกเป็นเด็กสองภาษา Save Big - แนะวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายก้อนโต ลัทธิบริโภคนิยม จับมือฉัน (Hold My Hand) "คุณเคยทำสิ่งที่ผิดพลาดในชีวิตหรือไม่ ? " อยากได้เงินเดือนขึ้นทำอย่างไรดี คุณค่าของคน : อยู่ที่ตัวเอง (นายสตีฟ จอบส์) วิธีเอาชนะ...ความขี้เกียจ ถ้าคุณเป็นหนี้ต้องทำอย่างไร คนรวยด้วยการทำงาน ทำอย่างไรในเมื่อคุณเกิด...ไม่มีความสุขในการทำงาน ทำอย่างไรให้รวย เพื่ออะไร... งานทรมานกับงานในฝัน ฝันให้ไกล...ไปให้ถึง ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้ แก้วที่ไม่เคยพอ เค้าว่ากันว่า...(เรื่องเปรียบเทียบระหว่างหนังสือกับความรัก) เทคนิคการสร้างภาพลักษณ์ของตนเองให้ประทับใจ ใบลาออกจากความทุกข์ พฤติกรรมที่นำสู่ความสุข วิธีพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาส 10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่ วิธีปฎิบัติหกประการเพื่อทำให้ผู้อื่นชอบท่าน ทำยังไงดี เมื่อเงินออมไม่มี เงินที่เป็นหนี้ก็ยังไม่หมด ชีวิตนี้...ยังมีทิศตะวันออก "เราควรเอาใจใส่ในงาน...แต่ไม่นำงานมาใส่ในใจ" " เด็กขี้ขโมย" สิ่งที่เรามักจะนึกเสียใจก่อนเสียชีวิต การเงินกับผู้หญิง พ่อครับ...ผมขอโทษ พ่อแห่งศตวรรษ (Father of the century) เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ได้ดี นิทานของพ่อ เงินที่หล่นหาย 10 หนทางสู่ความสำเร็จจากนักธุรกิจดัง วางแผนการเงิน เรื่องของคนทุกวัย คุณเคยดูถูกคนอื่นว่าแย่กว่าคุณบ้างหรือไม่ บทเรียนชีวิตจาก "ไมเคิล แจ็คสัน" ในแง่การใช้เงิน วิธีคิดเมื่อต้องเป็นผู้แพ้ ออมสินเวลา แก้ปัญหาหนี้ด้วยสติ วางแผนการเงินเป็นเรื่องของทุกคน ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน ปัญหามีให้สู้ ไม่ใช่ให้ถอย!!! ความซื่อสัตย์ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง Clip ลุกขึ้น!! อีกครั้ง...กำลังใจสำหรับคนที่ท้อแท้ ทำอย่างไรเมื่อ (ใจ) เป็นหนี้ หนุ่มบ้านนอก คาถาหัวใจเศรษฐี |