
ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี

ตอนที่ 1
ย่างเข้าปลายเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม ถือเป็นช่วงของการกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ภ.ง.ด.51 ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ และมีรอบระยะเวลาบัญชี 12 เดือน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง 31 ธันวาคม 2551
ซึ่งโดยทั่วไปกำหนดให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำและจะได้กระทำตลอดรอบระยะเวลาบัญชี เว้นแต่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ เครดิตฟองซิเอร์ และกิจการที่ได้รับอนุญาตให้มีผู้สอบทานงบการเงิน ซึ่งสามารถคำนวณกำไรสุทธิตามความเป็นจริงได้ ก็ให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีจากกำไรจริงที่ได้รับสำหรับครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีแรก
สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติ บุคคลที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้ และหรือที่จดทะเบียนเลิกกิจการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยมีรอบระยะเวลาบัญชีแรกหรือรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้ายไม่ถึง 12 เดือน ก็เป็นอันไม่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้เปลี่ยนแปลงวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี และรอบระยะเวลาบัญชีปีนั้นมีกำหนดเวลาเกินกว่า 6 เดือน ก็ยังคงต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ครับ จึงขอเรียนให้ทราบเพื่อจะได้เตรียมตัวกันแต่เนิ่น ๆ
กรมสรรพากรได้จัดเตรียมแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.51 ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ณ วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท
นอกจากได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% ของกำไรสุทธิ ลงเหลือ 15% ของกำไรสุทธิในส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท และ 25% ของกำไรสุทธิส่วนที่เกิน 1 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท
สำหรับกำไรสุทธิส่วนที่เกิน 3 ล้านบาทนั้น ให้ยังคงเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราปกติ 30% นั้น ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2551 นี้ ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่กิจการดังกล่าวอีกไม่เกิน 150,000 บาทต่อรอบระยะเวลาบัญชี
ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ครึ่งปีของกิจการดังกล่าวนั้น ท่านอธิบดีกรมสรรพากร นายศานิต ร่างน้อย ได้แจ้งว่า ให้นำจำนวนเงินที่ได้รับยกเว้นไม่เกิน 150,000 บาท มาคำนวณหักออกจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิของทั้งรอบระยะเวลาบัญชี ในลักษณะเดียวกับการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี ที่เคยได้รับยกเว้นมาก่อนหน้านี้แล้ว
ตอนที่ 2
ย่างเข้าเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ภ.ง.ด.51 สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ และมีรอบระยะเวลาบัญชีตรงกับปีประดิทิน (ปฏิทิน) ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง 31 ธันวาคม 2551
ขอเรียนย้ำกันอีกครั้งหนึ่งว่าภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีมี 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ และเครดิตฟองซิเอร์ รวมถึงกิจการที่ได้รับอนุญาตให้มีผู้สอบทานงบการเงิน ซึ่งสามารถคำนวณกำไรสุทธิตามความเป็นจริงได้นั้น ให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีจากกำไรจริงที่ได้รับ สำหรับครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีแรก ซึ่งมีวิธีการคำนวณภาษีเช่นเดียวกับการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำรอบระยะ เวลาบัญชีนั่นเอง เพียงแต่ตัดระยะเวลาให้สั้นลงเหลือเพียงหกเดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชีเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ 2 สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไปนอกจากที่กล่าวข้างต้น ให้เสียจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำและจะได้กระทำตลอดรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าว
ทั้งนี้ ในการยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.51 เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ณ วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 นี้ ท่านอธิบดีกรมสรรพากร นายศานิต ร่างน้อย ได้กล่าวย้ำเป็นกรณีพิเศษว่า ได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิในส่วนที่ไม่เกิน 150,000 บาท นอกเหนือจากการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลดังเช่นปีที่ผ่านมา
ดังนั้น กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ณ วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท เมื่อประมาณการกำไรสุทธิได้เป็นจำนวนเท่าใด นำไปหักด้วยผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชี คงเหลือเป็นจำนวนเท่าใดให้หารด้วยสอง เพราะเป็นการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี
สำหรับจำนวนกำไรที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายใหม่จำนวนไม่เกิน 150,000 บาทนั้น ให้นำไปหักออกจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิของทั้งรอบระยะเวลาบัญชี แล้วจึงนำมาคำนวณภาษีในอัตรา 15% ของกำไรสุทธิ ในส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท หลังจากหักจำนวนกำไรสุทธิที่ได้รับ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคลดังกล่าวแล้ว หลังจากนั้นคำนวณภาษีในอัตรา 25% ของกำไรสุทธิส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท และสำหรับ 30% ของกำไรสุทธิส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท
ตอนที่ 3
จันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2551 แล้ววันรุ่งพรุ่งนี้ ก็เป็นวันแม่แห่งชาติ โดยเฉพาะสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทยทุกคน และทรงคุณอันยิ่งใหญ่หาที่สุดมิได้ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เพื่อเป็นมิ่งขวัญ ของพสกนิกรชาวไทยสืบไปตราบนานเท่านาน
วันแม่ ก็ต้องทำความดีเพื่อทดเเทนพระคุณแม่ กลับไปหาท่าน ดูแลท่านทำให้ท่านมีความสุข หากอยู่ไกลโดยระยะทาง ก็หาเวลาโทรศัพท์ขอพรท่าน เพียงเท่านี้ก็นับว่าได้ทำบุญแล้ว หากท่านผู้ใดปฏิบัติยิ่งกว่านี้ ก็ยิ่งเป็นการทำมหากุศล ขอร่วมแสดงมุทิตาจิตด้วย
ย้อนกลับมาเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ภ.ง.ด.51 สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ และมีรอบระยะเวลาบัญชีตรงกับปีประดิทิน (ปฏิทิน) ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง 31 ธันวาคม 2551 ซึ่ง ต้องยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีภายในวันที่ 31 สิงหาคม นี้
เเต่เนื่องจากวันที่ 31 สิงหาคม ตรงกับวันอาทิตย์ วันสุดท้ายของกำหนดเวลาการยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 จึงเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ที่ 1 กันยายน ครับ ซึ่งท่านสามารถยื่นแบบและชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีได้โดยไม่มีเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มใด ๆ
กรณีเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีจากประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ให้นำประมาณการกำไรสุทธิภายหลังหักผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชีก่อนปีปัจจุบัน มาคำนวณ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีเพียงกึ่งหนึ่ง
เช่น บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของไทยแห่งหนึ่งมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2 ล้านบาท ประมาณการกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2551 ภายหลังหักผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปี เป็นเงิน 1,150,000 บาท เช่นนี้ ได้กำหนดให้บริษัทฯ ต้องหักกำไรสุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 150,000 บาท คงเหลือประมาณการกำไรสุทธิ 1,000,000 บาท ดังนั้นบริษัทฯ ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีเป็นเงิน 1,000,000/2 x 15% = 75,000 บาท ตามกฎหมาย ***(หมายเหตุ ตัวอย่างนี้ผู้เขียนยกตัวอย่างผิด อ่านต่อตอนที่ 4 ซึ่งได้อธิบายแก้ไขใหม่ภายหลัง ไม่ได้คิดแบบวิธีนี้)
หากในระยะเวลาหกเดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ ก็ให้นำเครดิตมาหักออกจากจำนวนภาษีเงินได้ที่ต้องเสียดังกล่าวได้อีก ถ้าจำนวนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายน้อยกว่าจำนวนภาษีที่ต้องชำระ ก็ให้ชำระเพิ่มเติมส่วนที่ขาดนั้น ทั้งจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย และจำนวนภาษีที่ชำระเพิ่มเติมให้ถือเป็นเครดิตในการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ประจำรอบระยะเวลาบัญชีต่อไป
ตอนที่ 4
ยังอยู่ในช่วงเวลาการยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ภ.ง.ด.51 สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ และมีรอบระยะเวลาบัญชีตรงกับปีประดิทิน (ปฏิทิน) ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 51-31 ธ.ค. 51 ซึ่งต้องยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ แต่ปรากฏว่า วันที่ 31 ส.ค. เป็นวันอาทิตย์ ดังนั้นวันสุดท้ายของกำหนดเวลาการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 จึงเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. แทน ซึ่งท่านสามารถยื่นแบบและชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีได้โดยไม่มีเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มใด ๆ ตามที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว
ต้องขอโทษที่อาจทำให้เข้าใจเกี่ยวกับตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีจากประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิในสัปดาห์ก่อน ซึ่งมีท่านผู้อ่านบางท่านแจ้งว่า ยกตัวอย่างผิด ก็ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ ขอแก้ดังนี้ครับ
ให้นำประมาณการกำไรสุทธิภายหลังจากที่คำนวณหักด้วยผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชีก่อนปีปัจจุบัน มาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีเพียงกึ่งหนึ่ง หากมีสิทธิยกเว้นสำหรับกำไรสุทธิ ก็ให้นำมาหักออกจากกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิ เหลือเท่าใดให้คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เช่น บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของไทยแห่งหนึ่งมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2 ล้านบาท ประมาณการกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 51 ภายหลังหักผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปี เป็นเงิน 2.4 ล้านบาท เช่นนี้ ให้บริษัทฯ คำนวณกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิ ได้เป็นเงิน 1.2 ล้านบาท สำหรับกำไรสุทธิหนึ่งล้านบาทแรก ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 150,000 บาท คงเหลือประมาณการกำไรสุทธิ 850,000 บาท คิดเป็นเงินภาษีเงินได้นิติบุคคล 127,500 บาท ส่วนกำไรสุทธิอีก 200,000 บาท คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 25% คิดเป็นภาษีเงินได้นิติบุคคล 50,000 บาท รวมเป็นภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปีที่ต้องชำระ 177,500 บาท
หากในระยะเวลาหกเดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ ก็ให้นำมาเครดิตหักออกจากจำนวนภาษีเงินได้ที่ต้องเสียดังกล่าวได้อีก ถ้าจำนวนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายน้อยกว่าจำนวนภาษีที่ต้องชำระ ก็ให้ชำระเพิ่มเติมส่วนที่ขาดนั้น ทั้งจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย และจำนวนภาษีที่ชำระเพิ่มเติมให้ถือเป็นเครดิตในการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ประจำรอบระยะเวลาบัญชีต่อไป

Download แบบ ภ.ง.ด.51 ปี 2551 (pdf)
คำอธิบายการกรอกแบบ ภ.ง.ด.51 ปี 2551(pdf)
ปัญหาภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51)
ภ.ง.ด.51(ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี)

บทความโดย : สุเทพ พงษ์พิทักษ์
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ (ระหว่างวันที่ 28/7/51 ถึง 18-8-51)