บริษัท พัฒนกิจ บัญชี ภาษีและฝึกอบรม จำกัด
Pattanakit Accounting Tax & Training Co., Ltd.
59/275 ซอยสุวินทวงศ์ 44 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร 10530
โทรศัพท์ 094-6574441 , 099-4567715 , 092-4634120, 061-0382531
Website :https://www.pattanakit.net / Email : infoservice2126@gmail.com

ทำไมคนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ...กันเสียที
ทำไมคนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ...กันเสียที
จากข้อมูลการสอนโทเฟล (TOEFL) ระหว่างเดือน กรกฎาคม 2547 – มิถุนายน 2548 ของศูนย์ทดสอบทางการศึกษา (EDUCATION TESTING SERVICE) ของสหรัฐอเมริกาพบว่า ประเทศไทยมีคะแนนเฉลี่ยการทดสอบภาษาอังกฤษในฐานะที่เป็นภาษาต่างประเทศหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า โทเฟล อยู่ในลำดับที่ 8 ของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ อาเซียน (ASEAN) สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย พม่า เวียดนาม และลาว ตามลำดับ นอกจากนี้ จากข้อมูลการทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อนำคะแนนไปใช้ในการสมัครงานหรือที่เราเรียกกันว่าโทอิก (TOEIC) พบว่าในช่วงปี 2547-2548 คะแนนสอบโทอิกของประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 4 ของกลุ่มประเทศใน รองจากฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และกัมพูชา สรุปสั้นๆ แบบฟันธงตรงนี้เลยว่า คนไทยเก่งภาษาอังกฤษน้อยกว่าเขมรและลาว! ผู้เขียนร่ำเรียนมาทางนี้โดยตรง ทำมาหากินจากการใช้ความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเป็นเวลา 20 กว่าปี ตกใจมากที่ทราบข้อมูลนี้ แต่ก่อนเคยนึกกระหยิ่มยิ้มย่องลำพองใจว่า ยังไงๆ ไทยก็เก่งกว่าลาวและเขมร เกือบจะทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ความจริงด้านภาษาอังกฤษ ยืนยันออกมาว่า “ไม่ใช่” อย่างที่คิดอีกต่อไปแล้ว ซึ่งอาจจะรวมถึงเรื่องอื่นด้วย ลองมานั่งนึกตรึกตรองดู เพื่อตอบคำถามที่ว่า “ทำไมคนไทยเก่งภาษาอังกฤษ สู้ลาวและ เขมรไม่ได้” พบว่าสาเหตุที่คนไทยจะเก่งหรือไม่เก่งภาษาอังกฤษนั้นมี องค์ประกอบสำคัญหลักๆ อยู่ 3 ประการคือ 1. ผู้สอน 2. ผู้เรียน 3. สิ่งแวดล้อม การที่คนไทยจะเก่งภาษาอังกฤษในระดับแข่งขันกับชาติอื่นได้นั้น ผู้สอน ผู้เรียน และสิ่งแวดล้อม ควรจะมีคุณสมบัติหรือลักษณะต่อไปนี้ 1. ผู้สอนหรือครู – อาจารย์ จะต้องมีความรู้ดี มีวิธีการถ่ายทอดที่ดี และเอาใจใส่ผู้เรียนเป็นอย่างดี รวมทั้งทำตัวเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้ผู้เรียนด้วย 2. ผู้เรียนหรือนักเรียน – นักศึกษาจะต้องให้ความสนใจทุ่มเท หมั่นฝึกฝน ทำแบบฝึกหัดอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเรียนอย่างตั้งใจมีเป้าหมาย และประเมินความก้าวหน้าของตัวเองเป็นระยะๆ 3. สิ่งแวดล้อม หมายถึงบรรยากาศและอุปกรณ์ในการเรียนรู้ได้แก่ หลักสูตร เอกสารการเรียนการสอน เทคโนโลยีการเรียนรู้และบรรยากาศรอบๆ ตัวของผู้เรียน สิ่งเหล่านี้จะต้องดีพร้อม มีคุณภาพและช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเป็นระบบและมีความต่อเนื่อง อนึ่ง ผู้สอนและผู้เรียนต้องเข้าใจตรงกันเสียก่อนว่า การเรียนภาษาให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพจะต้องเรียนรู้และฝึกฝนทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน นี่เป็นลำดับหรือขั้นตอนการเรียนรู้ภาษาที่ถูกต้องของมนุษย์ โดยเริ่มต้นจากการฟังก่อน แล้วค่อยขยับไปเรื่องพูด อ่าน เขียน เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกันแบบบูรณาการ แต่ไม่ใช่ให้เด็กตัวเล็กๆ มือไม้ยังไม่แข็งแรง เขียนตัวอักษร A-Z ให้ได้เสียก่อน ก่อนจะไปเรียนรู้ทักษะอื่นๆ ประเทศไทยเรียนภาษาอังกฤษแบบผิดธรรมชาติของการเรียนภาษาคือไปเริ่มที่เขียน แล้วค่อยอ่าน ฟัง พูด เป็นขั้นตอนแบบ เขียน อ่าน ฟัง พูดเหมือนปีนต้นไม้จากยอดลงมาโคน ผู้เรียน เลย ตกลงมาตายหรือตกม้าตายเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญ ทั้งผู้สอนและผู้เรียนต้องเข้าใจเบื้องต้นร่วมกันด้วยว่าคนจะเก่งภาษาได้จะต้องมีความสามารถหลักๆ 4 ประการ คือความสามารถทางไวยากรณ์ (GRAMMATICAL COMPETENCE) ความสามารถทางภาษาเชิงสังคม (SOCIOLINGUISTIC COMPETENCE) ความสามารถเชิงยุทธศาสตร์การสื่อสาร (STRATEGIC COMPETENCE) และความสามารถในการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง (DISCOURSE COMPETENCE) โดยสรุป ความสามารถทั้ง 4 ประการอาจย่อให้เหลือเพียง 2 ประการคือความสามารถทางภาษาศาสตร์ (LINGUISTC COMPETENCE) และความสามารถในการแสดงออก (PERFORMANCE COMPETENCE) ดังนั้น ถ้าเราอยากให้คนไทยเก่งภาษาอังกฤษจริงๆจะต้องพิจารณาองค์ประกอบในด้านผู้สอนผู้เรียน และสิ่งแวดล้อมว่า ดีพร้อม และมีประสิทธิภาพ-คุณภาพเพียงใดไม่ใช่มัวแต่ฝันและเฝ้าคอยว่าเมื่อไรคนไทยจะเก่งภาษาอังกฤษกันเสียที อย่างที่เคยเป็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน
บทความโดย : ดร.ธีรวิทย์ ภิญโญณัฐกานต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
|
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |