ReadyPlanet.com
dot
คลังข้อมูลนักบัญชี
dot
bulletมุมบัญชี
bulletสภาวิชาชีพบัญชี
bulletกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
bulletธนาคารแห่งประเทศไทย
dot
ภาษี (Tax)
dot
bulletกรมสรรพากร
bulletสถานที่ตั้ง/เบอร์โทร สรรพากร
bulletประมวลรัษฎากร
bulletหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย
bulletDownload File บัญชี - ภาษี
dot
รวม Link เอนกประสงค์
dot
bulletอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารต่างๆ
bulletอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์
bulletธนาคารพาณิชย์ต่างๆ
bulletหน่วยบริการภาษีใน กทม.
bulletตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
bulletพจนานุกรมไทย
bulletDictionary อังกฤษ > ไทย
bulletเบอร์โทรศัพท์ - พกไว้คู่กาย
bulletรวมเบอร์โทรเรียก แท็กซี่
bulletชมคลิปวีดีโอ เมืองไทยในอดีต
dot
ค้นหาบทความในเว็บไซต์

dot
dot
บริการของเรา (Service)
dot


รับทำบัญชี



รูปแบบของธุรกิจการเงินนอกระบบ

 

                                                                   รูปแบบของธุรกิจการเงินนอกระบบ 

 

      ในระยะที่ผ่านมา ลักษณะของธุรกิจการเงินนอกระบบ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและนำความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและประชาชน มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ ดังต่อไปนี้

1. แชร์ลูกโซ่

    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เป็นการระดมทุนจากประชาชนรูปแบบหนึ่งที่แพร่หลายและขยายตัวออกไปรวดเร็วมาก เนื่องจากจ่ายผลประโยชน์ ตอบแทนสูงในระยะแรก ตรงต่อเวลา และผู้ประกอบการมักอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่งที่ได้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้นๆ เช่น ซื้อขายน้ำมัน ( แชร์ชม้อย ) ซื้อขายที่ดินราคาถูก ( แชร์เสมาฟ้าคราม ) แชร์นากหญ้า เป็นต้น

    ลักษณะของผู้ประกอบการ มีทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล โดยอาจตั้งมาในรูปบริษัทจำกัดมีหนังสือจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ โดยจะเริ่มจากการโฆษณาชักชวนประชาชน ให้มาร่วมลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ลงทุนซื้อขายน้ำมัน ที่ดิน เป็นต้น และอ้างว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ในอัตราที่สูง และจ่ายในเวลาอันรวดเร็ว เป็นเครื่องมือในการดึงดูดลูกค้า

    ผู้สนใจจะร่วมลงทุนต้องจ่ายเงินลงทุนสูง ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป โดยจะมีอัตราผลประโยชน์เป็นสัดส่วน และจะได้ผลประโยชน์ตอบแทน เมื่อหาสมาชิกมาร่วมลงทุนต่อกันไป จึงจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้

  2. ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ 

      ธุรกิจประเภทนี้มีวิวัฒนาการมาจากแชร์ลูกโซ่ เพียงแต่ได้เปลี่ยนวิธีการและรูปแบบในการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยการนำเอาสินค้าและบริการมาใช้บังหน้า ธุรกิจนี้จะมีการโฆษณาชวนเชื่อแอบอ้างบุคคลสำคัญ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และอวดอ้างสรรพคุณสินค้าจนเกินจริงเพื่อดึงดูดความสนใจและทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่จะเน้นการหาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่ายเป็นหลัก ไม่เน้นการขายสินค้า สินค้าส่วนใหญ่ที่นำมาขายตรงได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สมุนไพร อัญมณี และคอร์สการเรียนหลักสูตรต่างๆ

      กลุ่มเป้าหมายที่ตกเป็นเหยื่อของธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่มักเป็นผู้มีรายได้ปานกลาง หรือนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางานทำ ผู้ประกอบการจะใช้วิธีการลงประกาศทางหนังสือพิมพ์รับสมัครงานในตำแหน่งต่างๆ แต่แท้จริงแล้วเมื่อมีใครหลงเข้าไปผู้ประกอบการจะให้สมัครสมาชิกเพื่อทำธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ข้อสังเกตพฤติกรรมของธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่มีดังนี้

      1. ขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่เป็นธุรกิจแอบแฝงจากธุรกิจขายตรง (MLM) มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจโดยการชักชวนประชาชนให้สมัครเป็นสมาชิก โดยมีสินค้าบังหน้าเท่านั้น สมาชิกที่เข้าร่วมธุรกิจจะได้รับผลตอบแทนในอัตราสูงตามเงื่อนไขที่กำหนด

      2.ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่มีความแตกต่างจากธุรกิจขายตรง เนื่องจากธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่จะมีการเก็บค่าสมัครสมาชิกและบังคับให้ซื้อสินค้าคุณภาพต่ำ ราคาสูง ไม่มุ่งเน้นการขายสินค้า แต่เน้นให้หาสมาชิกใหม่เพื่อรับผลตอบแทนจากการหาสมาชิกเพิ่ม แต่ธุรกิจขายตรงเน้นการขายสินค้าและสร้างองค์กร เพื่อให้เกิดการขายมากขึ้น รายได้เกิดจากยอดขายสินค้า

      3. ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ มีการดำเนินงานอย่างเป็นขบวนการ มีแม่ทีม มีสายงานการออกหาสมาชิกเพิ่ม หากสามารถหาสมาชิกได้มากจะได้รับผลตอบแทนสูง ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับนั้นมาจากเงินของสมาชิกใหม่ ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้า

      นอกจากนี้ยังมีธุกิจอีกประเภทที่เข้าข่ายเป็นธุรกิจขายตรงแบบแชร์ลูกโซ่ คือการจัดสรรวันหยุดพักผ่อนแบบ Time Sharing เป็นการประกอบธุรกิจบริการ เช่น บริการสถานที่พักตากอากาศ สถานที่ออกกำลัง กาย โรง แรม รีสอร์ท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะให้บริการแก่สมาชิกเท่านั้น หากผู้ใดสนใจต้องสมัครเป็นสมาชิก โดยเสียค่าสมาชิกตามอัตราที่กำหนด เมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการท่องเที่ยว และสิทธิประโยชน์ที่สำคัญที่ทำให้คนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของธุรกิจนี้คือ ผลประโยชน์ตอบแทนที่จะได้รับเมื่อสามารถหาสมาชิกใหม่ได้

      กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจจัดสรรวันหยุดพักผ่อนแบบ Time Sharing อาจเป็นในหมู่ญาติพี่น้องที่มักถูกชักชวนจากคนใกล้ตัวให้สมัครเป็นสมาชิกและที่ร้ายไปกว่านั้นสมาชิกของธุรกิจนี้มากกว่า 80 % เป็นคนต่างจังหวัดที่มีฐานะยากจน แต่เพียงต้องการที่จะได้รับผลตอบแทนสูง ๆ จึงมาสมัครเป็นสมาชิก บางคนต้องจำนองที่ดิน จำนำทรัพย์สิน เพื่อนำเงินมาจ่ายเป็นค่าสมัครสมาชิก

      แท้จริงแล้วผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับนั้นเกิดจากเงินที่มีคนมาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ หากไม่สามารถหาคนมาสมัครสมาชิกใหม่ได้ก็จะไม่สามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ได้ และเมื่อถึงเวลานั้นธุรกิจจะปิดตัวลงทำให้คนที่เป็นสมาชิกได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนมากและไม่สามารถใช้สิทธิในการท่องเที่ยวได้อีกด้วย

3. การชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจรูปแบบต่างๆ

    3.1 การเก็งกำไรจากการขึ้นลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex)

        บริษัทค้าเงินเถื่อนจะลงทุนจัดตั้งบริษัทให้ดูสวยงามน่าเชื่อ เพื่อลวงลูกค้าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบริษัทซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยแสดงใบอนุญาตอื่น เช่น แสดงใบอนุญาตจดทะเบียนบริษัทจากกระทรวงพาณิชย์ แต่โดยข้อเท็จจริงบริษัทค้าเงินเถื่อนเหล่านี้ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินตราต่างประเทศจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย

        วิธีการที่บริษัทจะเข้าถึงบุคคลกลุ่มเป้าหมายเพื่อหลอกลวงให้เป็นลูกค้าและเข้าลงทุน โดยจะใช้วิธีการโทรศัพท์ติดต่อชักชวนจนลูกค้าเข้าร่วมลงทุนด้วย กลุ่มเป้าหมายบริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ทำงานในอาชีพที่มีรายได้สูง ได้แก่ แพทย์ วิศวกร อาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นต้น หลังจากนั้นลูกค้าต้องเปิดบัญชีกับบริษัทในวงเงินขั้นต่ำ 200,000 บาท วางเงินมัดจำซึ่งบริษัทอ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันการสั่งซื้อสั่งขายกับบริษัท โดยสามารถซื้อหรือขายเพื่อเก็งกำไรในเงินตราต่างประเทศ 4 สกุลหลัก ได้แก่ ปอนด์อังกฤษ ยูโร ฟรังก์สวิส และเยนญี่ปุ่น ซื้อขายครั้งละไม่เกิน 5 หน่วย (Unit ) และต้องเสียค่านายหน้า1,250 บาทต่อหน่วยเงินตราต่างประเทศ 1 หน่วย สำหรับค่าเงินสกุลต่างๆ จะแตกต่างกันคือ 1 หน่วยจะเท่ากับ 62 , 500 ปอนด์อังกฤษ หรือ 125 , 000 ฟรังก์สวิส หรือ12,500,000 เยนญี่ปุ่น และอัตรากำหนดซื้อขายด้วยสกุลดอลลาร์สหรัฐนั้น บริษัทจะซื้อขายโดยอ้างตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เช่น ตลาด ฮ่องกง สิงค์โปร์ ลอนดอน และนิวยอร์ค เป็นต้น โดยผ่านเครื่องรับข่าวของสำนักข่าว BISNEWS ,TELERATE ฯลฯ ซึ่งตามข้อเท็จจริงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ปรากฎบนจอเครื่องรับข่าวที่แสดงไว้ ลูกค้ามาสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของจริงที่ซื้อขายในต่างประเทศหรือไม่ เมื่อบริษัทได้แจ้งว่าได้ซื้อหรือได้ขายให้ลูกค้าด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเท่าใด ลูกค้าก็ต้องเชื่อตามนั้น นอกจากนี้หนังสือสัญญาลูกค้าส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษจำนวนหลายหน้ากระดาษ ซึ่งลูกค้าไม่ค่อยเข้าใจเพราะเป็นศัพท์เทคนิคเกี่ยวกับการค้าเงินตราต่างประเทศ แต่ก็ไว้วางใจเชื่อถือพนักงานของบริษัท ลูกค้าทุกรายมิได้เซ็นสัญญากับบริษัทโดยตรง มีเพียงลายเซ็นพนักงานการตลาดของบริษัทในฐานะคู่สัญญา อาจมีการประทับตราบริษัท ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่เสมอ ดังนั้น เมื่อมีปัญหาถูกหลอกลวงให้เสียเงิน ลูกค้าจึงไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทได้

        อีกข้อคือ บริษัทจะโฆษณาทางหนังสือพิมพ์รับสมัครพนักงานจำนวนมากในตำแหน่งต่างๆ โดยระบุพื้นฐานความรู้ระดับปริญญาตรีทุกสาขา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ หลังการอบรม บริษัทจะคัดเลือกพนักงานให้ทดลองงานโดยให้ชักชวนคนให้มาร่วมลงทุนกับบริษัทและส่วนมากจะเริ่มจากบุคคลที่ใกล้ชิดก่อน เช่น บิดา มารดา พี่น้อง เพื่อนฝูง ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะยอมเป็นลูกค้าของบริษัท เพราะต้องการให้บุตรหลานหรือญาติพี่น้องมีงานทำ หรือมีรายได้สูงๆ เมื่อลูกค้าขาดทุนถึงจุดที่บริษัทต้องเรียกเงินมัดจำเพิ่ม พนักงานบริษัทจะโทรให้ลูกค้าวางเงินมัดจำเพิ่ม จนกระทั่งขาดทุนในที่สุด

3.2 การเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาสินค้าเกษตร (Commodity)

        ลักษณะของธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ Commodity เป็นการชักชวนประชาชนให้เข้ามาร่วมลงทุน Commodity ส่วนใหญ่เป็นการอ้างว่าซื้อสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพื่อเก็งกำไรกับตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในต่างประเทศ เช่น โตเกียว ชิคาโก (ไม่ใช่การซื้อขายในตลาดประเทศไทย) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อขายกันเพียงตัวเลข เพราะผู้ซื้อไม่ต้องการที่จะรับมอบสินค้า เพราะจะทำให้ผู้ซื้อเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่นค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าระวาง เป็นต้น โดยผู้ลงทุนแต่ละรายต้องมาเปิดบัญชีกับบริษัท ในวงเงินขั้นต่ำ จำนวน 3 ยูนิต ในอัตรายูนิตละ 12,000 บาท ซึ่งเรียกว่าเงินมัดจำสำรอง ( Margin Recelpt ) ในอัตราร้อยละ 5-10 ของราคาสินค้าต่อหน่วย จึงสามารถกระทำการเทรดสินค้าตามชนิดแต่ละประเภทของสินค้า ซึ่งสินค้าที่สั่งซื้อสั่งขายนั้น จะประกอบด้วย ถั่วเหลือง น้ำตาล ยางพารา กาแฟ เนื้อมะพร้าว

         สำหรับราคาสินค้านั้นจะอาศัยราคาจากสำนักงานตลาดกลางธุรกิจประเภทนี้ คือ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สำนักงานตลาดกลางดังกล่าว จะส่งข่าวสารเกี่ยวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไปยังประเทศต่างๆ โดยผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ กรณีนักลงทุนมีกำไรจากการเทรดสินค้าก็จะได้รับผลกำไรคืนไป หากขาดทุน หมายความถึง ราคาสินค้าลดลงนักลงทุนจะขาดทุนลอยตัว เมื่อนักลงทุนประสงค์ที่จะถือสิทธิ์การสั่งซื้อสั่งขายสินค้าต่อไป นักลงทุนต้องนำเงินมัดจำมาวางให้ครบตามเกณฑ์ของบริษัท กรณีหากผู้ลงทุนมาเปิดบัญชีและวางเงินมัดจำสำรองไว้แล้วไม่ได้กระทำการเทรดสินค้า ก็สามารถถอนเงินมัดจำไปจากบริษัทได้ครบตามจำนวนเต็ม

         แต่จากการตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ แล้วพบว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้ทำธุรกรรมตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่ได้อาศัยเล่ห์เหลี่ยม กลโกงที่พนักงานบริษัทคิดค้น หรือลอกเลียนแบบมาจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างชาติหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ ต้มตุ๋น หลอกเอาเงินไปเป็นจำนวนมาก ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์พฤติการณ์ที่กล่าวข้างต้น เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

         ต้องรับผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000 บาทถึง 1,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ทั้งยังต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกงประชาชนอีกกระทงหนึ่งด้วย

 3.3 ธุรกิจซื้อขายดัชนีหลักทรัพย์ต่างประเทศในลักษณะเก็งกำไรจากการขึ้นลงของดัชนีหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Set Index)

         บริษัทจะใช้วิธีให้พนักงานของบริษัทติดต่อถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทโดยตรง ได้แก่ บุคคลที่มีรายชื่อเป็นสมาชิกของสมาคมหรือองค์กรต่างๆ ผู้มีอาชีพที่มีรายได้ดี เช่น แพทย์ วิศวกร อาจารย์มหาวิทยาลัย และเจ้าของกิจการต่างๆ แล้วจะให้พนักงานของบริษัทโทรไปชักชวน หว่านล้อมต่างๆ จนลูกค้าหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุน โดยจะให้ลูกค้าเปิดบัญชีไว้กับบริษัทเป็นเงินขั้นต่ำประมาณ 100,000-200,000 บาท และวางเงินมัดจำ (Margin) เพื่อเป็นหลักประกันการสั่งซื้อ - สั่งขายกับบริษัท โดยบริษัทอ้างว่าจะส่งคำสั่งซื้อ - คำสั่งขายไปยังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(ดัชนีดาวน์โจนส์ ) ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง(ดัชนีฮั่งเส็ง) หรือหลักทรัพย์ญี่ปุ่น (ดัชนีนิเคอิ) เป็นต้น

         แต่แท้จริงแล้วไม่ได้มีการซื้อ - ขาย เกิดขึ้น เมื่อลูกค้าขาดทุนถึงจุดที่บริษัทต้องเรียกเงินมัดจำเพิ่ม พนักงานบริษัทจะหว่านล้อมต่างๆ ให้ลูกค้านำเงินมาลงทุนเพิ่ม หากลูกค้าไม่ยอมลงทุนเพิ่มแต่ต้องการถอนเงินคืน ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับเงินคืน โดยบริษัทจะอ้างว่าไม่มีเงินมัดจำเหลืออยู่ในบัญชีเพราะลูกค้าขาดทุนหมดแล้ว พนักงานบางคนจะหลอกให้ลูกค้ากำไรในช่วงแรกๆ แต่จะไม่ให้ถอนกำไรที่ได้โดยจะชักจูงให้ลงทุนเพิ่มเติม และเพิ่มทุนไปเรื่อยๆ หากลูกค้าต้องการถอนเงินคืนออกมาพนักงานจะถ่วงเวลาจนเงินในบัญชีไม่มีเหลือ และลูกค้าไม่อาจเรียกคืนได้

 4. การเล่นแชร์

         การเล่นแชร์ มีลักษณะของการให้สมาชิกนำเงินมารวมกันเพื่อจัดสรรให้กับสมาชิกผู้เสนอดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนสูงสุด ( เปีย ) ได้รับเงินทุนกองกลางไปใช้ได้ โดยเริ่มต้นจากท้าวแชร์หรือนายวงแชร์ จะเป็นผู้ได้รับเงินทุนกองกลางก่อนโดยไม่ต้องเสนอดอกเบี้ยหรือผลตอบแทน ( เปีย )

         การเล่นแชร์นั้นเป็นลักษณะของการออมเงินอย่างหนึ่งเพื่อเก็บเป็นเงินก้อนไว้ใช้จ่ายเมื่อเกิดความจำเป็น โดยมีผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนในระบบสถาบันการเงิน หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการระดมเงินทุน จากกลุ่มบุคคลที่รู้จักคุ้นเคยกันและมีอาชีพเดียวกัน

         อย่างไรก็ตาม การเล่นแชร์สามารถกระทำได้ในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น เนื่องจากพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ .ศ . 2534 ซึ่งเป็นกฎหมายควบคุม กำกับ ดูแล การเล่นแชร์ ได้กำหนดห้ามมิให้ บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์ หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ ที่มีลักษณะ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

•  จัดให้มีการเล่นแชร์รวมกันเกินกว่า 3 วง

•  มีจำนวนสมาชิกในวงแชร์รวมกันเกินกว่า 30 คน

•  มีทุนกองกลางต่อ 1 งวด รวมกันทุกวงไม่เกิน 300,000 บาท

•  ผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ (ท้าวแชร์ ) ได้รับประโยชน์ตอบแทนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากสิทธิที่จะได้รับทุนกลาง ในการเข้าร่วมเล่นแชร์ งวดใดงวดหนึ่งโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย

          ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับไม่เกินวันละ 500 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่

5. การปล่อยเงินกู้นอกระบบ

          การปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นการเงินนอกระบบรูปแบบหนึ่ง ที่มีรูปแบบของการจัดการหลากหลาย อาทิเช่น การปล่อยเงินกู้เป็นจำนวนมากให้กับประชาชนทั่วไป โดยไม่มีการทำสัญญากู้ยืมเป็นหนังสือแต่ผู้ให้กู้ยึดโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นประกัน พร้อมกับให้ผู้กู้เซ็นใบมอบฉันทะ ไว้ โดยผู้ให้กู้จะเรียกเก็บดอกเบี้ยทุกเดือน หากผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ ผู้ให้กู้จะนำใบมอบฉันทะดังกล่าวไปดำเนินการโอนที่ดินนั้นมาเป็นของผู้ให้กู้ หรือในกรณีที่ผู้กู้เป็นผู้มีการงานทำมั่นคง และมีเงินเดือนประจำ โดยมีทั้งการให้กู้ยืมเงินแบบทั้งมีสัญญากู้ยืมและไม่มีสัญญากู้ยืม ผู้ให้กู้จะยึดบัตรเอทีเอ็ม ของผู้กู้ไว้ และจะนำมาเบิกเงินสดเพื่อผ่อนชำระหนี้เงินกู้ผ่านธนาคาร และผู้ให้กู้จะเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง ตั้งแต่ร้อยละ 5-30 ต่อเดือน โดยในขณะนี้มีทั้งเงินกู้รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน

          การปล่อยเงินกู้นอกระบบนี้ โดยส่วนมากจะเป็นนายทุนผู้มีอิทธิพลในท้องที่เป็นผู้ให้กู้หรือเป็นผู้รับจ้างในการเรียกเก็บหนี้จากผู้กู้ โดยจะมีการข่มขู่หรือ กรรโชก หรือแม้แต่กระทั่งทำร้ายร่างกายผู้กู้ เพื่อให้ผู้กู้ชำระหนี้ ซึ่งจะเกิดปัญหาสังคมขึ้นตามมา เนื่องจากผู้กู้เกิดความหวาดกลัว จึงต้องไปกู้ยืมเงินจากผู้ให้กู้อื่นๆที่เรียกดอกเบี้ยแพงกว่าเพื่อมาชำระหนี้ให้กับผู้ให้กู้ ทำให้เกิดเป็นหนี้สินขึ้นไม่รู้จบ หรืออาจกระทั่งทำให้หมดเนื้อหมดตัวทำให้ที่ดินซึ่งใช้ทำมาหากินถูกยึดไปโดยไม่ชอบ

          การดำเนินการทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม .653 กำหนดให้การกู้ยืมเงินตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้ยืม หากไม่มีจะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับได้ตามกฎหมาย และในส่วนของดอกเบี้ยถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญากู้ จึงไม่สามารถฟ้องร้องได้

          ส่วนประเด็นการนำโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ มาให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้ ไม่ถือเป็นการจำนองหรือจำนำในทางกฎหมายแต่ผู้ให้กู้จะมีสิทธิยึดหน่วงโฉนดไว้ได้ จนกว่าผู้กู้จะชำระเงินและหากผู้ให้กู้นำใบมอบฉันทะไปจดทะเบียนโอนที่ดินไปเป็นของตน ถือเป็นการที่ผู้ให้กู้ยอมรับเอาทรัพย์สินอย่างอื่นแทนจำนวนเงิน ดังนั้นต้องคิดราคาที่ดินเท่ากับราคาที่ดินตามท้องตลาดในเวลาและสถานที่ส่งมอบ ถ้าไม่ตกลงตามนี้ข้อตกลงดังกล่าวตกเป็นโมฆะ ในประเด็นที่มีการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดนั้น ถึงแม้ว่ามีการทำสัญญากู้ยืมเงินกันถูกต้องตามกฎหมาย หากดอกเบี้ยที่นายทุนเรียกเก็บเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ถือเป็นโมฆะตามกฎหมาย ซึ่งผู้กู้ไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ทั้งยังโทษทางอาญาคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ .ศ .2475

ที่มา : ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง




รวมบทความการจัดการธุรกิจ

กลยุทธ์การตลาด เจาะองค์กร
การตลาด - วิธีบริหารจัดการกับราคาสินค้าที่แพง
จุดยืนทางการตลาด
กลยุทธ์การตลาด สำหรับเจ้าของกิจการ SME
เทคนิคการขายให้ประสบความสำเร็จ
กลยุทธ์การตลาดสินค้า Brandname
7 ความล้มเหลวทางการตลาด
ตั้งชื่อร้าน สร้างแบรนด์ อย่างไรดี
กลยุทธ์สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า
คุณสมบัติ 9 อย่างที่ google ใช้พิจารณารับคนเข้าทำงาน
เช็ค BLACKLIST...10 ข้อต้องรู้ เครดิตบูโร !
"เจ้านาย" 8 ประเภท ที่ลูกน้อง "สุดทน"
การบริหารคน ให้ธุรกิจไปรอด
ทำไมต้องมีบัญชีกระแสรายวัน
ธุรกิจ SME อยากกู้เงินธนาคาร เริ่มต้นอย่างไรดี
ทำไมคนเราจึงยอมซื้อสินค้า IT ราคาแพง
เทคนิคการบริหารจัดการลูกค้่า
วิธีการให้กำลังใจตัวเองในการทำงาน
นอกจากเงิน มีสิ่งใดทำให้พนักงานมีความสุขได้อีก
10 คำถามก่อนรับพนักงานใหม่
ทิศทางการตลาดยุคดิจิตอล
กองทุนตั้งตัวได้ โอกาสสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่
3 ปี (นับจากปี 2555) เศรษฐกิจไทย 'เลี่ยงความเสี่ยง- คว้าโอกาส'
กะทิชาวเกาะ “กว่าจะมาเป็น กะทิ UHT รายแรกของไทย”
เส้นทางความสำเร็จของ "หมอเส็ง"
แนวโน้มการตลาดออนไลน์
ทฤษฎีผลประโยชน์กับการลงทุน
การออกแบบเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์
Google กับการพัฒนาธุรกิจ
ความท้าทายเอสเอ็มอีไทยในปี 2554
แนวทางการบริหารเงินในปี 2554
เรื่องราวของราชารีไซเคิลเมืองไทย ที่เริ่มต้นธุรกิจเก็บขยะมาขาย จนธุรกิจเติบโตรวยเป็นเศรษฐี
สัมภาษณ์เจ้าของธุรกิจจานดาวเทียม PSI...เส้นทางกว่าจะมาถึงวันนี้
วิธีจัดการกับลูกค้าที่ชอบโวยวาย
สูตรสำเร็จ การบริหารกิจการกาแฟ (แบล็คแคนยอน) สู่ระดับสากล
Change Management
สื่อออนไลน์กับการทำธุรกิจ
การส่งต่อธุรกิจครอบครัว
เปลี่ยนงานใหม่อย่างไรไม่ให้พลาด
ขายตรงผ่านดาวเทียม
ธุรกิจอีคอมเมิซไทย..ก้าวไกลแค่ไหน
ทำอย่างไรเมื่อเงินขาดมือ
เคล็ดลับ 7 ประการในการรักษาลูกค้าให้อยู่กับเราตลอดไป
"วิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้นักธุรกิจต้องทำอะไรบ้าง"
"ลูกหนี้" คือ "กับดัก" ของกระแสเงินสด
อย่าใช้เงินกู้ผิดประเภท
ทำอย่างไรให้อีกฝ่ายตอบ เยส (Yes) !
ให้โบนัส "สร้าง" หรือ "ทำลาย" กำลังใจ
การตลาดสำหรับธุรกิจบริการ
วิธีการหา “ตัวช่วย” สำหรับแก้ไขปัญหาหนี้สิน
คติพจน์แห่งการประพฤติตนในสถานที่ทำงาน
เมื่อขงเบ้งสอนเล่าปี่เกี่ยวกับเทคนิคการบริหารเวลา
ทำไมหัวหน้าไม่ฟังลูกน้อง
10 ตัวอย่างจูงใจพนักงาน
เปิด 10 บริษัทแชมป์กำไรยอดเยี่ยม ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ
7 วิธี…ต่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจ
Comfort Care…รักษาใจในวาระสุดท้ายก่อนเลิกจ้าง
สัญญาณเตือนจากคำพูด
Work Hard กับ Work Smart
SMEs จะต้องเผชิญอะไรในปี 2552 บ้าง
เคล็ดลับการทำงาน อย่างชาวจีนที่คุณเลียนแบบได้
เลิกจ้าง...มิใช่คำตอบสุดท้าย
10 สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจล้ม !!!
จะทำอย่างไร เมื่องานเยอะจนทำไม่ทัน
การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
THE SECRET ไขกุญแจความสำเร็จธุรกิจยุคหน้า
10 กลยุทธ์ซื้อใจมนุษย์เงินเดือน
วิธีการหลีกเลี่ยงภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว
เมื่อลูกน้องทำงานไม่ได้ดั่งใจ
การฟอกเงิน คืออะไร
ต่อรองแบบ Win-Win
เมื่อพนักงานเริ่มหมดความมุ่งมั่นในการทำงาน
ธนาคารไม่ใช่เพื่อน
นายที่ลูกน้องไม่ชอบ
การบริหารจัดการเงินสดในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)
อย่าฆ่าเวลาจนเป็นนิสัย
10 เทคนิค...พูดอย่างมือโปร
สาเหตุของ... การคิดใหญ่ แต่...ไปไม่รอด !
เคล็ดลับ "จำกัด" จุดอ่อน
วิธีการเขียนแผนธุรกิจ
Me Too Business
รับมือลูกค้าเจ้าอารมณ์
7 วิธี เพื่อการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ
10 เงื่อนไขผูกใจลูกค้าให้ประสบความสำเร็จ
ทำไมคนบางประเภทจึงไม่สามารถเป็นผู้นำคนได้
ความสำเร็จที่เกิดจาก “ทีมสนับสนุน”
ประโยชน์ที่ได้รับ จากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทำ Team ให้ Work
21 เหตุแห่งความล้มเหลวของท่านกว๋อฉาง (นักปราชญ์ชาวจีน)
10 วิธีในการเอาชนะความกลัวในการขาย
จ้างคน...ที่ใจ (Passion-Based Recruitment)
วิธีการจัดการ งานสุดเซ็งให้กลับชื่นมื่น
คัดเลือกคนที่ “ใช่”
7 วิธีในการจัดการเงินสดหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพ
เจรจาต่อรองอย่างผู้ชนะ
ท็อปฮิตสาเหตุ...งานไม่เดิน !!!
ทำอย่างไรให้เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์
10 เหตุผลดีๆ ที่ควรวางแผนการเงิน
สร้างอุปนิสัยในการทำงาน