การวางแผนภาษี...นั้นสำคัญไฉน
ภาษีเป็นเรื่องที่น้อยคนไม่รู้จัก แม้ว่าประชาชนกว่า 62 ล้านคนเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เพียงประมาณ 6 ล้านคน แต่ประชาชนลูกเล็กเด็กแดงก็หนีภาษีไม่พ้น ตราบใดที่ยังมีการซื้อขาย
ของกินของใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค ภาษีมูลค่าเพิ่มแทรกแซงอยู่ในการซื้อขายภายในประเทศนั้น ๆ
ไม่ว่าผู้นั้นจะรู้จักภาษีหรือไม่ และไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนต่างชาติก็ตาม แล้วการวางแผนภาษี
หมายถึงอะไร อีกทั้งวางแผนไปเพื่ออะไร เป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่
การศึกษาให้เข้าใจเรื่องภาษีเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แต่การวางแผนภาษียิ่งยากกว่า แล้วยัง
เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดก่อนประกอบธุรกิจใด ๆ เสียด้วย เช่น การนำเข้ารถยนต์มาจำหน่าย การเข้ามา
ถ่ายทำภาพยนตร์ การประกอบกิจการศูนย์สรรพสินค้า การรับเหมาก่อสร้าง การซื้อขาย
ภายในประเทศและระหว่างประเทศ เป็นต้น โดยการวางแผนภาษีที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญในการ
ประกอบธุรกิจ เนื่องจากมีผลเป็นการลดต้นทุน และเพิ่มกระแสเงินสด (Cash Flow) ให้แก่กิจการได้
ขณะที่การวางแผนภาษีมิได้หมายความถึงการหนีภาษี หรือการจัดทำบัญชีสองชุดเช่นแต่ก่อน แต่
มุ่งถึงการวางโครงสร้างทางธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎหมายภาษีอากร ซึ่งก่อให้เกิดปัจจัยที่
เอื้ออำนวยต่อการลงทุนโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น มีผลเป็นการยกเว้น หรือลดหย่อนภาษีอากร
หรือหักค่าใช้จ่ายได้มากกว่า เป็นต้น
![](https://www.pattanakit.net/images/1181231320/tax_time_ha.gif)
การวางแผนภาษีจำเป็นต้องพิจารณาผลกระทบและปัจจัยต่าง ๆ ในเรื่องของนิยามคำว่า
เงินได้ ข้อยกเว้นภาระภาษี การลดอัตราภาษี การหักค่าใช้จ่าย การหักภาษี ณ ที่จ่าย อำนาจการ
ประเมิน การกระจายฐานภาษี การใช้อนุสัญญาภาษีซ้อน และเกณฑ์การชำระภาษี โดยเงินได้พึง
ประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ให้รวมถึงเงินได้อันพึงเสียภาษีและประโยชน์อย่างอื่น
ที่ได้รับ การวางแผนภาษีที่สำคัญ คือ เงินได้ที่เกี่ยวขอ้ งนั้นเป็น เงินได้ ที่ต้องเสียภาษีจริงหรือไม่
แม้เงินได้ที่ได้รับจะเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี
แต่ประมวลรัษฎากรและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอาจบัญญัติข้อยกเว้นเงินได้ที่ไม่ต้องเสียภาษี
อากรก็ได้ เช่น สัญญารับจ้างทำของที่หน้าที่งานเกิดขึ้นนอกประเทศ และคู่สัญญาได้ทำสัญญาขึ้น
นอกประเทศจะได้รับยกเว้นไม่ต้องติดอากรแสตมป์เป็นอัตราร้อยละ 0.1 หรือกำไรจากการขายหุ้น
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่บุคคลธรรมดาได้รับจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ขณะที่เงินปันผลที่บุคคลธรรมดาได้รับจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 10 ดังนั้น ผู้ถือ
หุ้นอาจเลือกขายหุ้นดังกล่าวไปในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนการประกาศจ่ายเงินปันผล เพื่อรับกำไร
จากการขายหุ้นซึ่งได้รับยกเว้นภาษี หลังจากที่บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้ว และมีผลให้
ราคาหุ้นเริ่มลดลง จึงเริ่มทยอยซื้อหุ้นกลับคืนมา เป้นการแปรสภาพเงินได้ประเภทหนึ่งซึ่งไม่ได้รับ
การยกเว้นภาษีให้กลับกลายเป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี
เงินได้ที่ต้องเสียภาษีบางประเภทอาจได้รับการลดหย่อนภาษี เช่น เงินได้จากดอกเบี้ยเงิน
ฝากซึ่งบุคคลธรรมดาได้รับจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราร้อยละ 15 โดยผู้มีเงินได้ไม่ต้อง
นำไปรวมคำนวณกับเงินได้ประเภทอื่น ๆ หรือเงินปันผลที่บุคคลธรรมดาได้รับจะเสียภาษีหัก ณ ที่
จ่ายในอัตราร้อยละ 10 และผู้มีเงินได้มีสิทธิเลือกนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น ๆ โดยได้รับเครดิต
ภาษีในอัตราร้อยละ 3 ใน 7 ส่วนของเงินปันผล เป็นการแปรสภาพเงินได้ที่ต้องเสียภาษีอัตราสูงมา
เป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีอัตราต่ำ นอกจากนั้นประมวลรัษฎากรจะให้คำนวณเงินได้พึงประเมินโดย
หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา หรือหักค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงก็ได้ ดังนั้น สิทธิในการหักค่าใช้จ่าย
ในการคำนวณภาษีอากรจึงเป็นข้อพิจารณาสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกรูปแบบการลงทุน
การหักภาษี ณ ที่จ่ายก็เป็นข้อพิจารณาสำคัญในการวางแผนภาษี เนื่องจากผู้มีเงินได้ต้อง
เสียภาษีล่วงหน้า ทำให้รายได้ที่ได้รับจริงมีจำนวนน้อยลง เมื่อถึงเวลาชำระเงินภาษีที่แท้จริง หากผู้
มีเงินได้อยู่ในสภาวะขาดทุน หรือภาระภาษีน้อยกว่าจำนวนเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ได้ชำระไปแล้ว
ต้องขอคืนงินภาษีจากกรมสรรพากร ก็อาจนำไปสู่การตรวจสอบบัญชีของกรมสรรพากร การบรรเทา
ภาระภาษีหัก ณ ที่จ่ายจึงอาจเป็นสิ่งจำเป็น แม้อาจจะไม่ทุกกรณีก็ตาม เช่น บริษัทรับจ้างก่อสร้างมี
รายรับจากการก่อสร้าง 300 ล้านบาท หากทำสัญญารับจ้างก่อสร้างจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อย
ละ 3 เป็นจำนวน 9 ล้านบาท
เมื่อถึงเวลาเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล หากบริษัทมีกำไรสุทธิต่ำกว่าร้อยละ 10 ของยอด
รายรับ บริษัทก็จะต้องขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคล ทางปฏิบัติจึงนิยมแยกสัญญาก่อสร้างเป็นสัญญา
ซื้อขายหนึ่งฉบับ และสัญญารับจ้างอีกหนึ่งฉบับ ซึ่งไม่มีภาษีหัก ณ ที่จ่ายในสัญญาซื้อขาย มีเพียง
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งขอคืนได้ แต่มีภาษีหัก ณ ที่จ่ายร้อยละ 3 ในสัญญารับจา้ ง และบางกรณีก็
จำเป็นต้องใช้ 2 บริษัทเข้าทำสัญญากับผู้ว่าจ้าง เพื่อเพิ่มเงินสดหมุนเวียน และตัดปัญหาการขอคืน
ภาษี
ภาระภาษีหัก ณ ที่จ่ายก็จำเป็นในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และมิได้
ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่มีเงินได้ที่จ่ายจาก หรือจ่ายในประเทศไทย ซึ่งมาตรา 70 แห่ง
ประมวลรัษฎากรได้จัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายเฉพาะกรณีที่ได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2)
(3) (4) (5) (6) ดังนั้น หากเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (7) และ 40 (8) ก็จะหลุดพ้นระบบภาษีใน
ประเทศไทย
อำนาจการประเมินของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เช่น กรณีการขายทรัพย์สิน ให้กู้ยืมเงิน
หรือให้บริการโดยไม่มีค่าตอบแทน หรือมีค่าตอบแทนต่ำกว่าราคาตลาด มาตรา 65 ทวิ (4) ให้
อำนาจเจ้าพนักงานประเมินกำหนดราคาตลาดเพื่อประโยชน์ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่
หากนักลงทุนเป็นบุคคลธรรมดา เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจเพียงกำหนดราคาตลาดเฉพาะกรณี
การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ และการขายอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น เว้นแต่ กรณีที่มีการได้รับเงินได้กัน
จริง แต่หลีกเลี่ยงไม่นำมารวมคำนวณภาษีอากร
การกระจายฐานภาษีเป็นการมุ่งใช้ประโยชน์จากหน่วยภาษีหลายหน่วยเพื่อการวางแผน
ภาษี เช่น กระจายรายรับให้บริษัทในเครือที่มีสภาพขาดทุน และกระจายรายจ่ายให้บริษัทในเครือที่
มีกำไรสุทธิสูง สำหรับการใช้อนุสัญญาภาษีซ้อนในกรณีนักลงทุนที่เข้ามาจัดตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจใน
ประเทศไทย หรือบริษัทไทยที่จ่ายค่าบริการ หรือเข้าทำสัญญาใดกับบริษัทต่างประเทศ โดย
อนุสัญญาภาษีซ้อนอาจใผลเป็นการยกเว้นหรือลดภาษีในประเทศไทย หรือในประเทศคู่ค้า แต่
อนุสัญญาภาษีซ้อนไม่มีผลเป็นการยกเว้น หรือลดหย่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือภาษี
ศุลกากร ดังนั้น การปรับใช้จึงต้องศึกษาขอบข่ายด้านภาษีและตัวบุคคลที่อาจใช้สิทธิได้ให้รอบคอบ
เกณฑ์การชำระภาษี กรณีบุคคลธรรมดา ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ชำระภาษีก็ต่อเมื่อได้รับเงินได้
จริง มิใช่เพียงแค่มีสิทธิที่จะได้รับเท่านั้น เว้นแต่กฎหมายมีบทบัญญัติไว้ เช่น ค่าภาษีที่นายจ้างออก
ให้ต้องนำมารวมคำนวณเป็นเงินได้ในปีแรกที่มีเงินได้นั้น แม้นายจ้างจะยังมิได้ออกให้จริงก็ตาม
ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคล มาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และคำสั่งกรมสรรพากรที่ ทป.1/2528
กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใช้เกณฑ์สิทธิ (Accrual Basis) ในการคำนวณรายได้เพื่อ
เสียภาษี โดยให้นำรายได้ที่เกิดขึ้นในรอบบัญชีใด แม้ว่าจะยังไม่ได้รับชำระในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
มารวมคำนวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
ประเด็นสำคัญของการวางแผนภาษีอีกประการหนึ่ง คือ จุดที่ต้องเสียภาษี (Taxing Point)
หากสามารถชะลอให้ถึงจุดที่ต้องเสียภาษีช้าลงเท่าไร ก็จะชะลอการไหลออกของเงินได้มากเท่านั้น
ทำให้เงินทุนหมุนเวียนมีมากขึ้น กระแสเงินสดก็มากสร้างความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ โดยจุด
ของการเสียภาษีประเภทต่าง ๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม อยู่ที่การยื่นใบขนสินค้าขาเข้า ส่งมอบ ออก
ใบกำกับภาษี หรือรับเงิน ขณะที่ภาษีธุรกิจเฉพาะ อยู่ที่วันลงบัญชีรายรับ ยกเว้นธุรกิจบางประเภท
เช่น สำนักงานกฎหมาย สำนักงานบัญชี ธุรกิจรับจ้างบางชนิด ยอมให้ใช้เกณฑ์เงินสด (Cash
Basis) ส่วนภาษีสรรพสามิต เมื่อขนสินค้าออก เช่น เคลื่อนย้ายออกจากสถานที่ผลิต ออกจาก
ท่าเรือ เป็นต้น
เขตอุตสาหกรรมส่งออก (Export Processing Zone - EPZ) คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded
Warehouse - BW) และเขตปลอดอากร (Free Zone - FZ) ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการชะลอ
หรือยกเว้นภาษีอากร กรณีนำเข้าเพื่อการส่งออกหากอยู่ใน EPZ ก็จะไม่ต้องเสียอากรขาเข้า อากร
ขาออก และภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ BW เป็นประโยชน์ในการชะลอการเสียภาษี โดยอยู่ใน BW จะไม่
ต้องเสียภาษี เสียภาษีเมื่อนำออกจาก BW เท่านั้น ใช้มากในกรณีการนำเข้ามาเก็บสินค้าไว้ใน BW
ก่อน
เมื่อส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าจึงนำออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บน โดยจะมีรายรับจากค่าสินค้า
พร้อมกับการจ่ายเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ไม่เกิดกรณีเงินทุนจมในสินค้า เนื่องจากการชำระภาษี
พร้อมไปกับการมีรายได้ สำหรับ FZ ก็ยกเว้นอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต และ
อากรขาออกด้วย การวางแผนภาษีที่ดีจึงจำเป็นต้องนำ EPZ BW และ FZ เข้ามาพิจารณาด้วย
ในบางกรณี
การวางแผนภาษีมีผลต่อการประกอบธุรกิจ ยิ่งในการประมูลโครงการต่าง ๆ ยิ่งจำเป็นอย่าง
มาก หากวางแผนภาษีได้ดีและรัดกุม ก็จะสามารถเสนอราคาในการเข้าประมูลโครงการได้ในราคา
ต่ำ แต่มีกำไร และสามารถได้รับการคัดเลือกให้ดำเนินครงการนั้น ๆ และจะยิ่งสำคัญกว่านั้น คือ
การวางแผนภาษีต้องถูกต้องแม่นยำด้วย ป้องกันผลเสียหายที่อาจเกิด การวางแผนภาษีจึง
หลีกเลี่ยงได้ยากยิ่งในธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง
บทความเพิ่มเติม : ชี้ช่องประหยัดเงิน (ภาษี)ภ.ง.ด.50
การวางแผนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 5 วิธี
การแตกหน่วยภาษี -โดยจัดตั้งคณะบุคคล
Download File การวางแผนภาษีในเรื่องอื่นๆเพิ่มเติม...คลิก
![](https://www.pattanakit.net/images/1181231320/1164507148.gif)
บทความโดย : วันเพ็ญ หรูจิตตวิวัฒน์ [wanpen@boi.go.th]