
เรื่องที่คนวัยทองควรรู้

ทำไมถึงเรียกวัยหมดประจำเดือนว่าวัยทองถึงแม้การหมดประจำเดือนจะเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดของคนวัยทอง แต่มันก็เป็นหลักบอกระยะทางของคนวัยทองเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้ประกอบด้วยการก้าวผ่านทั้งหมดของคนวัยทอง ก่อนที่ประจำเดือนจะหมดยังมีขั้นตอนของการเสื่อมสมรรถภาพของรังไข่ จากการสำรวจพบว่าจะมีช่วงราว 2-4 ปี แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ช่วงนี้จะเรียกว่า ช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน หลังจากประจำเดือนหมดรังไข่จะหดเล็กลง
วัยทองก็คือ ก่อนวัยหมดประจำเดือน คนก็มักจะเรียกว่า ช่วงระยะของวัยหมดประจำเดือน ถ้าเร็วก็ 2-3 ปี ถ้าช้าก็ 8-12 ปี ถ้าหากถามว่าวัยทองเกิดขึ้นเมื่อใด ผู้หญิงหลายๆคนก็คงตอบไม่ถูกว่า อายุเท่าไหร่ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ และหมดไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ดังนั้น การหมดประจำเดือนก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการเข้าสู่วัยทองเสมอไป
เพราะอะไร บางคนอายุไม่ถึง 35 ปี ก็หมดประจำเดือนรังไข่ของคนเราจะมีอายุเฉลี่ยราว 30 ปีโดยประมาณ และก็จะมีการพบน้อยมากที่อายุไม่ถึง 35 ปีก็หมดประจำเดือน นอกจากจะเป็นเพราะว่า ถูกตัดมดลูกหรือรังไข่ และก็อาจจะมีสาเหตุหลายประการที่เป็นเหตุของการหมดประจำเดือนเมื่ออายุยังน้อย เช่น ป่วยหนักทำให้ขาดสารอาหาร เป็นโรคโลหิตจาง วัณโรค โรคติดเชื้อ แต่หลังจากผ่านการรักษาแล้วประจำเดือนก็จะมาดังเดิม หรือมาจากระบบประสาท อ่อนเพลียเกินไป เคร่งเครียด การที่มีประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ เนื้องอกในรังไข่ เป็นต้น
นอกจากเรื่องประจำเดือนแล้วยังมีเรื่องอะไรที่เปลี่ยนแปลงอีกบ้างในสตรีวัยทอง
อวัยวะเพศเริ่มหดเล็กลง ก่อนประจำเดือนจะหมดสัก 2-3 ปี ไขมันใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศลดน้อยลง ลักษณะยืดหยุ่นลดลง ขนเพชรก็จะร่วง กล้ามเนื้อค่อนข้างหลวม น้ำหล่อลื่นลดน้อย
เซลล์ของเยื่อช่องคลอดหดเล็ก เซลล์ชั้นใต้ผิวบอบบางมากขึ้นจึงทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย ความเป็นกรดบริเวณช่องคลอดหมดไป จึงทำให้แบคทีเรียบริเวณนี้เจริญเติบโตได้ง่าย ทำให้ปวดแสบปวดร้อนเป็นผื่นแดงเสมอ
เต้านมหย่อนยาน เพราะเต้านมใช้ฮอร์โมนเพศร่วมกันกับอวัยวะเพศ ดังนั้นเต้านมจะไม่เต่งตึงแต่กลับหดเล็กลง
รูปร่างเปลี่ยนไป พอเข้าสู่วัยทองไขมันเริ่มมากขึ้น ถึงแม้จะมีกานออกกำลังกาย แต่ก็ช่วยไม่ได้มาก ส่วนท้องจะมีการสะสมไขมันมากขึ้น ต้นขาใหญ่ขึ้น รอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าเพิ่มมากขึ้น ถุงใต้ตาเพิ่มขึ้น ขนบริเวณริมฝีปากจะเพิ่มมากขึ้น ผิวหนังจะตกกระมากขึ้น
วัยทอง เพราะอะไรจึงไม่เป็นปัญหาในเพศชายหญิงหรือชายแรกเริ่มเกิดมาก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน แต่กระบวนการเจริญเติบโตของต่อมไตต่างๆในร่างกายจะแตกต่างออกไป ผู้หญิงที่แตกต่างคือ การมีรังไข่ ผู้ชายมีลูกอัณฑะ ส่วนฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกันมาก การเจริญเติบโตของร่างกายก็ไม่เหมือนกัน กล่าวโดยสรุปลูกอัณฑะจะพัฒนาช้ากว่ารังไข่ ดังนั้นเด็กผู้ชายก็จะโตเป็นหนุ่มช้ากว่าเด็กผู้หญิง เนื่องจากระยะการเจริญเติบโตของลูกอัณฑะมีระยะเวลาค่อนข้างจะนาน การเสื่อมโทรมค่อนข้างจะช้า และการเปลี่ยนแปลงไม่มีผลกระทบมากนัก ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงวัยทอง ผู้คนทั่วไปมักจะคิดถึงแต่ปัญหาการดูแลสุขภาพของผู้หญิงส่วนใหญ่
สตรีทุกคนหลังหมดประจำเดือนจะมีอาการของคน วัยทอง ทุกคนรึเปล่าสตรีทุกคนเมื่อย่างเข้าสู่วัยทองล้วนจะต้องปรากฏอาการของคนวัยทองทั้งสิ้น ก่อนอื่นก็คือ อาการของการเปลี่ยนแปลงของประจำเดือน จากนั้นอารมณ์ทางเพศและอวัยวะเพศก็จะเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สตรีทุกคนที่เข้าสู่วัยทองจะมีอาการไม่สบายไปเสียทุกคน นอกจากนั้นปัญหาการเกิดอาการคันและช่องคลอดแห้งนั้น มักจะเกิดโดยทั่วไป
โรคอะไรบ้างของคนวัยทองที่จะหายไปเองเมื่อเข้าสู่วัยทองมักจะปรากฏอาการของโรคต่างๆ ซึ่งไม่ใช่โรคเรื้องรังที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด จึงมีทางที่จะรักษาได้ แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วอาการก็จะปรากฏอยู่ค่อนข้างนาน วัยทองก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างหักมุมของสภาพร่างกายเพราะโรคเดียวกันแต่เกิดกับแต่ละคนต่างกัน โดยเฉพาะการหมดประจำเดือนอย่าไปวิตกกังวลเพราะถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร ส่วนอาการร้อนวูบวาบ ออกเหงื่อ จิตใจว้าวุ่น เป็นอาการของการสูญเสียความยืดหยุ่นของเส้นเลือด มักจะเกิดที่ส่วนบนของร่างกาย โดยเฉพาะใบหน้าและลำคอ ซึ่งจะมีอาการแผ่ซ่านชั่วครู่ชั่วยามก็จะหายไปเอง อาการที่เกิดขึ้นอย่างเช่นการออกเหงื่อผิวหนังจะมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาไต่ พร้อมกับมีอาการหนาวเล็กน้อย อาการที่เกิดจะไม่เลือกเวลา อาการเหล่านี้เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล ที่เป็นน้อยก็จะราวๆครึ่งปี หรือ 1 ปี ที่เป็นมากๆ ก็จะประมาณ 4-5 ปีก็จะหมด
สตรีวัยทองทำไมจึงชอบวูบวาบตามร่างกายสตรีวัยทองมักเกิดการสะสมความร้อนในร่างกายมาก ก็มักจะปรากฏอาการผิวหนังเป็นผื่นแดง และเหงื่อออกมาก อาการของสตรีวัยทองที่เกิดมักไม่เกี่ยวข้องกับอากาศ อากาศจะเป็นอย่างไรเย็นเพียงไรก็ยังจะมีเหงื่อออกอยู่ สาเหตุไม่ได้เกี่ยวกับสุขภาพหรือเสื้อผ้า หากอยู่ที่อาการของฮอร์โมนของร่างกายเริ่มเสื่อมถอย จึงกล่าวได้ว่าอาการร้อนวูบวาบเกิดจากระดับฮอร์โมนในร่างกายที่ทำให้เกิดขึ้น เมื่อฮอร์โมนเพศเริ่มเสื่อมถอยทำให้ต่อมใต้สมองและสมองต้องเคลื่อนไหวมากขึ้น ทำให้เกิดอากาศร้อนขึ้นมา
อาการคันที่อวัยวะเพศของคนวัยทองสำคัญหรือไม่อาการคันที่อวัยวะเพศเป็นโรคที่สามารถพบเห็นในสตรี มักจะเป็นที่บริเวณแคมนอกและทั่วบริเวณอวัยวะเพศด้านนอกจรดทวารหนัก อาการที่เกิดจะเกิดขึ้นชั่วครู่ชั่วยาม บางครั้งเป็นเพราะอุณหภูมิรอบๆอวัยวะเพศเกิดร้อนขึ้นมา หรืออาจจะถูกกระตุ้นจากด้านอาหารการกิน เช่นทานของมีรสจัด ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ทำให้เลือดสูบฉีดเร็วขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งคือความสกปรก การดูแลทางด้านอนามัยไม่เพียงพอ กางเกงในที่คับเกินไป การคันบริเวณอวัยวะเพศในวัยทองนั้น ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะมาจากการขาดฮอร์โมน แต่สาเหตุด้านอื่นๆก็สำคัญ ฉะนั้นจำเป็นต้องทำการรักษาโดยการใช้ฮอร์โมนจะได้ผลดีสามารถที่จะหยุดยั้งอาการคันได้
เพราะอะไรผิวของคนวัยทองจึงมักบอบบางผิวหนังถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกับรังไข่ แต่ว่าก็หล่อเลี้ยงด้วยฮอร์โมนที่ผลิตจากรังไข่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นขน หรือไขมันใต้ผิวหนัง ล้วนมีส่วนประกอบของฮอร์โมน ฉะนั้นเมื่อเข้าสู่วัยทอง รังไข่เริ่มถดถอยฮอร์โมนเริ่มน้อยลง ระบบต่างๆในร่างกายเริ่มแปรปรวน ผิวหนังเปลี่ยนเป็นบางลง ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏร่องรอยของความเหี่ยวย่น โดยเฉพาะตีนกา หางคิ้วและริมฝีปาก ผิวเริ่มเปราะบางลง สัดส่วนน้ำในร่างกายเริ่มลดน้อยลง ต่อมไขมันหดตัว การขับถ่ายเอาสิ่งสกปรกจากร่างกายก็น้อยลง ผิวจะแห้ง ขาดความเงางาม จึงมักปรากฏอาการคันที่ผิวหนัง
การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของคนวัยทองเป็นอาการทางประสาทหรือไม่ช่วงวัยทองเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน แม้กระทั่งอารมณ์ทางเพศก็เฉื่อยลง จิตใจฟุ้งซ่านไม่สงบ นอนไม่หลับ เครียด ร่างกายรู้สึกหนัก ชาตามมือและเท้า อาการเหล่านี้ผู้ป่วยจะกังวลมากทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างมักมีปัญหา จึงมักจะทำตัวโดดเดี่ยวซึมเศร้า ฉะนั้นอาการทางประสาทเกี่ยวพันอย่างแยกไม่ออกกับสมรรถภาพของรังไข่ที่ถดถอย อาการต่างเหล่านี้ ส่วนใหญ่พอผ่านระยะเวลาหนึ่งก็จะค่อยๆทุเลาไปเอง หรือหายเป็นปกติ แล้วถึงที่สุดอาการของโรคทางประสาท เช่นว่านี้แตกต่างกับคุ้มคลั่ง อาการกระวนกระวายทางอารมณ์เป็นอาการที่เกิดครั้งคราวชั่วครู่ชั่วยาม การใช่ฮอร์โมนบวกกับยานอนหลับก็ทำให้อาการดีขึ้น
ที่มา : http://www.loveed.biz