บริษัท พัฒนกิจ บัญชี ภาษีและฝึกอบรม จำกัด
Pattanakit Accounting Tax & Training Co., Ltd.
59/275 ซอยสุวินทวงศ์ 44 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร 10530
โทรศัพท์ 094-6574441 , 099-4567715 , 092-4634120, 061-0382531
Website :https://www.pattanakit.net / Email : infoservice2126@gmail.com

การเงินกับผู้หญิง
เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่มีวันสำคัญสำหรับผู้หญิงมากที่สุดในรอบปี คือ มีทั้งวันแม่แห่งชาติ และวันสตรีไทย สัปดาห์นี้ ดิฉันจึงถือโอกาสเขียนถึงการเงินกับผู้หญิง แต่แฟนคอลัมน์ที่เป็นผู้ชายก็อ่านได้นะคะ อย่าเพิ่งพลิกไปหน้าอื่น ผู้หญิงเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อการสอนเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้กับบุตรหลาน และคนในครอบครัว เริ่มจากการสอนเด็กให้รู้จักค่าของเงิน รู้จักใช้เงิน รู้จักประหยัดทรัพยากร และประหยัดเงิน และผู้หญิงเองก็มักจะเป็น “กระเป๋าเงินของบ้าน” คือ เป็นผู้จัดงบประมาณ รายรับรายจ่าย เพื่อให้เกิดสมดุล อย่างไรก็ดี ในหลายๆ กรณี เราพบว่า ผู้หญิงเป็นผู้ที่ไม่มีวินัยในการใช้เงิน มีการใช้เงินฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย หรือจัดการเงินไม่ดี ก่อให้เกิดหนี้สินรุงรัง เป็นปัญหาต่อครอบครัว ก็มีอยู่มาก การเงินพื้นฐานที่ควรปลูกฝังให้กับเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็คือ “เงิน” เป็นสิ่งที่ใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือบริการ (เงินทองเป็นของมีค่า) และจะได้เงินมาต้องมีการทำงาน (เงินทองเป็นของหายาก) จะเป็นการทำงานแบบลงแรงโดยใช้แรงงาน หรือแบบลงทุนและลงแรงในการค้าขาย หรือทำธุรกิจ หรือลงทุนโดยไม่ต้องลงแรง เช่น การลงทุนในพันธบัตร หรือหุ้น ที่สำคัญ การได้เงินมาควรจะเป็นการได้มาอย่างถูกต้อง สุจริต เมื่อได้เงินมาแล้ว ก็ต้องรู้จักจัดสรร ทำงบประมาณ แบ่งเก็บออม สำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และแบ่งไว้ใช้จ่าย เมื่อรายรับสูงกว่ารายจ่าย ก็ถือว่ามีความมั่นคงทางการเงินในระดับหนึ่ง คนที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยมีสองประเภทค่ะ ประเภทแรก ไม่ได้หาเงินเอง จึงไม่ได้รับทราบถึงความลำบากในการหาเงิน ซึ่งหากไม่เรียนรู้ว่าเงินทองเป็นของหายาก หรือเป็นของมีค่าแล้ว ชีวิตในอนาคตก็จะลำบาก ประเภทที่สอง เป็นกลุ่มที่หาเงินได้มาก มีเงินเหลือจากการใช้จ่ายจำนวนสูง เพราะฉะนั้น จึงสามารถฟุ่มเฟือยได้โดยไม่มีใครเดือดร้อน เราควรจะปล่อยให้คนกลุ่มนี้ใช้เงิน เพื่อให้เศรษฐกิจมีการเติบโต มีเงินหมุนเวียนในระบบ และหากเขาจะแบ่งบางส่วนมาเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสกว่า ก็จะเป็นการดียิ่งขึ้นต่อสังคมค่ะ ดิฉันขอฝากข้อเตือนสติสำหรับการใช้เงินไว้ห้าข้อ ดังนี้ ข้อที่หนึ่ง อย่าเป็นทาสของเงิน ถ้าเรานึกอยู่เสมอว่า เงินเป็นเพียงตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ เราก็จะไม่ผูกติดว่า ต้องมีเงินเราจึงจะสามารถทำอะไรๆ ได้ เพราะเราสามารถจะทำของขึ้นมาใช้เอง หรือทำสินค้าหรือนำบริการของเราไปแลกเปลี่ยนกับสินค้าและบริการของผู้อื่นได้ เช่น อยากกินผัก ก็สามารถปลูกเองได้ อยากได้เงินซื้อขนม ก็ไปนวดไหล่ให้คุณยายได้ ข้อที่สอง มีสติในการใช้เงิน ต่อให้มีเงินมากมายเพียงใด หากไม่มีสติ ใช้เกินตัวอยู่เรื่อยๆ ก็ทำให้หมดตัวได้ การใช้เงินต้องมีสติ เห็นข้าวของลดราคาต้องนึกก่อนว่า จะได้ใช้หรือไม่ ถ้าได้ใช้อยู่แล้ว และซื้อได้ในราคาถูก ก็ซื้อเลยค่ะ จะได้ประหยัดเงิน แต่ถ้าไม่มีโอกาสใช้จริงๆ ซื้อมาก็จะเสียเปล่า สู้เก็บเงินเอาไว้ใช้อย่างอื่นที่จำเป็นไม่ได้ (ที่เตือนเพราะข้อนี้ดิฉันทำพลาดบ่อยๆ ค่ะ เขียนไปจึงเท่ากับเตือนตัวเองด้วย) ข้อเตือนสติที่สาม หลีกเลี่ยงจากการพนัน ไม่มีใครรวยเพราะการพนัน ยกเว้นเจ้ามือ และเจ้ามือก็ไม่ได้รวยเสมอไปด้วย เจ้ามือที่ล้มไปก็มีจำนวนมาก บางคนบอกว่าเล่นสนุกๆ ฆ่าเวลา แต่หากไม่มีสติแล้ว มันจะเป็นการฆ่าเวลาที่แพงมากทีเดียว ถ้าจะเล่นสนุกๆ จริง ต้องไม่ใช้เงินค่ะ เลี้ยงอาหาร เลี้ยงขนมก็ยังพอทำเนา ข้อที่สี่ เงินไม่อยู่คงทนตลอดไป แม้จะไม่ได้ใช้ แต่อำนาจซื้อที่แท้จริงก็หดหายไปได้ ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูง ดังนั้น จึงต้องรู้ที่จะเก็บรักษาเงิน และต้องเก็บแบบไม่ให้อำนาจซื้อหดหายไป จึงควรนำไปลงทุนเพื่อให้งอกเงย แต่ต้องดูแลและลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ และที่สำคัญ ต้องไม่โลภ ข้อที่ห้า เงินทองเป็นของนอกกาย ความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีของคนในครอบครัวต่างหาก ที่สำคัญกว่า เคยได้ยินนิทานที่ให้เลือกของขวัญสามอย่างไหมคะ เรื่องมีอยู่ว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งเปิดประตูมา พบคนแก่สามคนยืนหนาวสั่น จึงดูแลเป็นอย่างดี แล้วเชิญเข้าบ้าน ทั้งสามบอกขอบใจแล้วตอบว่าทั้งสามเป็นเทวดา เข้าไปพร้อมกันไม่ได้ ให้เลือกเข้าไปเพียงหนึ่งเดียว และเมื่อเลือกแล้วก็จะได้พรตามนั้นตลอดไป สามองค์นั้น คือ ความร่ำรวย ความสุข และความรัก สามีภรรยาคู่นี้คิดว่า เชิญความร่ำรวยเข้ามา เราก็จะสบาย ไม่ต้องลำบากทำงานอีก หรือจะเชิญความสุขเข้ามาเราก็น่าจะอยู่แบบมีความสุขไปตลอด หารือกันเพื่อตัดสินใจอยู่ ครู่ใหญ่ และสุดท้ายก็เชิญ เทวดาแห่งความรักเข้ามาในบ้าน ปรากฏว่า เทวดาความร่ำรวยและความสุข เดินตามเข้ามาด้วย จึงถามว่า ท่านบอกว่าเข้ามาได้เพียงองค์เดียว เหตุใดท่านจึงเข้ามาทั้งสามองค์ เทวดาตอบว่า เมื่อมีความรัก ความร่ำรวยและความสุขก็จะตามมา ดังนั้น จึงเข้ามาได้ทั้งหมด “Money is power, freedom, a cushion, the root of all evil, the sum of blessings.” - Carl Sandburg “เงิน คือ อำนาจ อิสรภาพ สิ่งสำรองยามขัดสน เป็นรากฐานของความชั่วร้ายทั้งปวง และเป็นศูนย์รวมของพรทั้งหลาย” - คาร์ล แซนเบอร์ก บทความโดย : วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553 |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |