ผู้บริโภคอ่วม เครดิตบูโรเตรียมแก้กฎหมายขึ้นบัญชีดำคน “เบี้ยวค่ามือถือ-เช็คเด้ง” เชื่อกระทบสิทธิขอกู้ เงินแบงก์

นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต้นเดือนธันวาคมนี้ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป สำหรับสาระสำคัญคือให้ผู้ประกอบธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือ ส่งรายชื่อลูกค้าที่ค้างชำระค่าบริการทั้งหมดเข้าสู่ระบบเครดิตบูโร

เนื่องจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการให้สินเชื่อ หรือการให้เครดิต เพราะลูกค้าจะใช้โทรศัพท์ไปก่อน จากนั้นผู้ประกอบการจะเรียกเก็บเงินทีหลัง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้ประกอบการ

นอกจากนั้น ยังจะเพิ่มอำนาจของเครดิตบูโรในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าที่ถูกระงับการใช้เช็คหรือเช็คเด้ง เพื่อสามารถตรวจสอบประวัติทางการเงินของลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง รวมทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสีย และสอดคล้องกับการแก้ไขกฎหมายใหม่ที่อนาคตจะกำหนดให้คดีเช็คเด้งไม่ใช่เป็นคดีอาญา

นายนิวัฒน์ กล่าวว่า ยังจะเสนอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อขอให้บริษัทสามารถขยายการประกอบธุรกิจมากขึ้น เช่น การจัดอันดับของความน่าเชื่อถือประวัติการชำระหนี้ (เครดิตสกอริง) ของลูกค้า เพื่อประโยชน์ของลูกค้า หากมีประวัติการชำระเงินที่ดี การขอสินเชื่อจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและแตกต่างจากลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินไม่ดี

รวมทั้งช่วยให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ภาพรวมประวัติการชำระเงินตามประเภทสินเชื่อ เพื่อประโยชน์ด้านการกำกับและกำหนดนโยบายของภาครัฐและภาคเอกชน จากปัจจุบันไม่สามารถทำได้สมบูรณ์แบบ เพราะเครดิตบูโรเก็บข้อมูลเฉพาะประวัติการชำระหนี้แบงก์และบัตรเครดิตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ สถาบันการเงินหลายแห่งใช้ข้อมูลของเครดิตบูโรในการอนุมัติสินเชื่อ หากลูกค้ารายใดมีประวัติชำระไม่ดีจะถูกบันทึกประวัติ ทำให้ไม่สามารถกู้เงินได้

นายนิวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังสนใจที่จะขยายการให้บริการในการติดตาม หรือให้ข้อมูลที่อยู่ปัจจุบันของสมาชิกกองทุนต่างๆ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถชำระเงินคืนแก่สมาชิกกองทุนเหล่านี้ ที่เกษียณอายุหรือลาออกจากงานก่อนกำหนด แต่ยังมีเงินสะสมค้างอยู่ ซึ่งแต่เดิมไม่สามารถตามตัวได้ เพราะที่อยู่จริงกับทะเบียนบ้านไม่ตรงกัน จะช่วยป้องกันไม่ให้สมาชิกเสียสิทธิที่ควรได้

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่ 13 พฤศจิกายน 2549